เชียงใหม่ - กรมป่าไม้พร้อมกองทัพภาค 3 จับมือ 10 จังหวัดภาคเหนือ เตรียมพร้อมโครงการลดปริมาณเชื้อเพลิง เริ่มลุย 28 ธ.ค. 63 เผยแผนชิงเก็บ 500 ตัน ชิงเผา 1.44 ล้านไร่ใน 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน หวังลดปัญหาไฟป่าและคุณภาพอากาศ
วันนี้ (17 ธ.ค. ) ที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) จังหวัดเชียงใหม่ นายณัฏฐนันธ์ ด่านอนุพันธ์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมโครงการลดประมาณเชื้อเพลิง กรมป่าไม้ ประจำปีงบประมาณ 2564 เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์โครงการลดประมาณเชื้อเพลิง กรมป่าไม้ ประจำปีงบประมาณ 2564 ในวันที่ 28 ธ.ค. 63 พร้อมกันในพื้นที่ 10 จังหวัดภาคเหนือ
นายณัฏฐนันธ์เปิดเผยว่า กรมป่าไม้เตรียมจัดกิจกรรมโครงการลดประมาณเชื้อเพลิง กรมป่าไม้ ประจำปีงบประมาณ 2564 ในวันที่ 28 ธ.ค. 63 พร้อมกันในพื้นที่ 10 จังหวัดภาคเหนือได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน เชียงราย แพร่ น่าน พะเยา ตาก และจังหวัดพิษณุโลก เพื่อเป็นการจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อลดปริมาณเชื้อเพลิงในป่า เป็นความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนนำเชื้อเพลิงในป่าออกมาใช้ประโยชน์ในครัวเรือน และเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการพึ่งพิงป่าจากการเผาสู่การใช้ประโยชน์จากป่า ตลอดจนการมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังและควบคุมไฟป่าในพื้นที่อย่างจริงจัง
ทั้งนี้ สาเหตุการเกิดไฟป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติปีงบประมาณ 2563 เกิดจากการเผาโดยไม่ทราบสาเหตุจำนวน 2,744 ครั้ง คิดเป็น 86.89%, เพื่อเก็บหาของป่า จำนวน 303 ครั้ง คิดเป็น 9.59% และเผาเพื่อเตรียมพื้นที่ 64 ครั้ง คิดเป็น 2.03% สำหรับการควบคุมไฟป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบนในปี 2563 มีจำนวน 3,021 ครั้ง 56,704 ไร่ โดยที่จังหวัดเชียงใหม่มีจำนวน 1,524 ครั้ง 17,745ไร่ จังหวัดแพร่มีจำนวน 445 ครั้ง 9,811 ไร่ และจังหวัดน่านมีจำนวน 338 ครั้ง 11,914 ไร่ ขณะที่ในปีนี้ 9 จังหวัดภาคเหนือมีแผนการจัดการเชื้อเพลิงโดยมีการชิงเก็บ 500 ตัน ชิงเผา 1.44 ล้านไร่ ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่มีแผนการจัดการเชื้อเพลิง 20% ชิงเก็บ 50 ตัน ชิงเผา 283,780 ไร่
ขณะที่ พ.อ.ชาตรี บุบผา เลขานุการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ปัจจุบันกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ได้กำชับให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในแต่ละจังหวัดลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเผา รวมทั้งการลาดตระเวนเฝ้าตรวจระวังไฟป่าพร้อมกับการป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อลดปริมาณหมอกควันในพื้นที่
โดยที่ผ่านมาจากการเก็บข้อมูลประจำวันของการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ค่า PM 2.5, ค่า PM 10 และค่า AQI ในห้วงวันที่ 1-16 ธ.ค. 63 พบว่า จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน พะเยา ลำปาง และจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีการพบจุดความร้อนในพื้นที่การเกษตร พื้นที่อนุรักษ์ ส่วนจังหวัดตากพบจุดความร้อนในพื้นที่การเกษตร พื้นที่ป่าสงวน สำหรับจังหวัดลำพูนพบจุดความร้อนสะสมในพื้นที่ริมทางและชุมชน ขณะที่พื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนล่างส่วนมากคุณภาพอากาศปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเผาพืชผลทางการเกษตร ซึ่งต้องขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ลดการเผาป่า เผาเศษวัชพืชทางการเกษตรเพื่อเป็นการลดปริมาณหมอกควันในพื้นที่