กาญจนบุรี - ผู้ว่าฯ กาญจน์ย้ำทุกฝ่ายคุมเข้มป้องกันการลักลอบข้ามแดนเข้ามาในพื้นที่อย่างเด็ดขาด หวั่นกระทบเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว หากพบเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นเป็นใจ ฟันไม่เลี้ยง พร้อมขานรับนโยบาย มท.ป้องกันการแพร่ระบาดช่วงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ 2564
เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้แพร่ระบาดในสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรี เป็น 1 ในจังหวัดที่มีชายแดนติดต่อกับประเทศพม่า และมีช่องทางผ่านแดนที่เป็นช่องทางธรรมชาติจำนวนมาก จึงต้องเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่เป็นกรณีพิเศษนั้น
ล่าสุด วันนี้ (16 ธ.ค.) นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตนได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมทั้งดำเนินการกับกลุ่มขบวนการนำพาแรงงานเข้ามาอย่างเฉียบขาด ขณะเดียวกัน ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ช่วยกันเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสให้ทางการได้ทราบ เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปดำเนินการกับผู้ลักลอบเข้าเมืองได้ทันท่วงที ก่อนที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวจะเข้ามายังพื้นที่ชั้นใน ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากกาญจนบุรีมีช่องทางธรรมชาติจำนวนมาก ตลอดแนวชายแดนที่ติดต่อกับประเทศพม่า ซึ่งมีความยาวหลายร้อยกิโลเมตร ขณะที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ทำงานกันอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังพบว่ามีบุคคลต่างด้าวเล็ดลอดมาอย่างต่อเนื่อง จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่พยายามดูแลป้องกันและป้องปรามในเรื่องนี้ให้ดีที่สุด
ส่วนเรื่องการนำเข้าและส่งออกสินค้าได้มีการพูดคุยกันกับทุกฝ่าย รวมทั้งผู้ประกอบการ เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ โดยจะต้องดูควบคู่กันไประหว่างเรื่องของเศรษฐกิจและการควบคุมโรค โดยทางจังหวัดได้ผ่อนผันให้นำเข้าและส่งออกสินค้าทุกวันพุธและพฤหัสบดี ในสัปดาห์ที่ 2 และ 4 ของเดือน ท่ามกลางมาตรการการคุมเข้มในการขนถ่ายสินค้า เพื่อไม่เสี่ยงต่อการนำเชื้อที่แพร่ระบาดอยู่ในพม่าเข้ามาแพร่ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ได้
จ.กาญจนบุรี เป็นเมืองท่องเที่ยว ดังนั้น การลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้ามา ไม่เพียงแต่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคเท่านั้น ยังจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวด้วย เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหว ขณะที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็ได้รับผลกระทบมาตลอดรอบปีที่ผ่านมาแล้ว จึงอยากให้ผู้ที่กระทำเช่นนี้หยุดพฤติกรรมที่สร้างปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ทุกฝ่ายเสียที เพียงเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัว แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง และไม่สามารถประเมินได้ ดังนั้น หากจับกุมได้จะดำเนินการอย่างเฉียบขาด ไม่ละเว้น และหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐรู้เห็นเป็นใจจะดำเนินการอย่างเฉียบขาดเช่นกัน
สำหรับกรณีที่ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้สั่งการให้เฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่ 2564 ตนได้กำชับและเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด
ในการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมากจนแออัด เช่น กิจกรรมเคานต์ดาวน์ กิจกรรมทางศาสนา กิจกรรมตามประเพณี เป็นต้น และในกรณีการจัดคอนเสิร์ตหรือการแสดงในสถานที่ที่มิใช่สถานบริการหรือสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการในสถานการณ์การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้ถือปฏิบัติตามหนังสือสั่งการและแนวทางที่กำหนดไว้โดยเคร่งครัด รวมทั้งให้เพิ่มความถี่ในการออกตรวจตราเพื่อป้องปรามให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด โดยดำเนินการด้วยความละเอียดรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของเอกชนและส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และยังไม่พบผู้ติดเชื้อแม้แต่รายเดียว