ศูนย์ข่าวขอนแก่น - บ้านป่าเมืองเถื่อน ตำรวจปรับ 1,000 บาทนายทุนเงินกู้บุกทำร้ายร่างกายลูกหนี้สาววัย 19 ปี ซ้ำบังคับให้กราบเท้าท่ามกลางสายตาชายหญิงหลายสิบคู่ที่มาออกกำลังกายสนามหญ้าเทียมแห่งหนึ่งในเมืองขอนแก่น แต่ไม่มีใครเข้าช่วยเหลือหรือห้ามปราม ผู้เสียหายกลัวครอบครัวถูกตามรังควาน ยันหนี้ 1.3 แสนใช้แน่นอน
จากกรณีได้มีการแชร์โพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิดในสนามฟุตบอลหญ้าเทียมแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ภาพเหตุการณ์นายทุนเงินกู้ใช้อาวุธปืนบีบีกันทุบและตีเข้าที่บริเวณใบหน้าและร่างกายของ “น้องมายด์” อายุ 19 ปี PR สาว จนได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังถูกบังคับให้กราบเท้า พร้อมกระชากลากถูเนื่องจากน้องมายด์ติดหนี้เงินกู้นายทุนรายนี้จำนวน 130,000 บาท
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายแพร นายทุนเงินกู้ในข้อหา ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ ปรับเป็นเงิน 1,000 บาท และตำรวจได้ปล่อยตัวไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 63 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุดเช้าวันนี้ (14 ธ.ค.) น้องมายด์ ผู้เสียหาย ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลขอนแก่นเพื่อตรวจร่างกายตามหมอนัดเป็นครั้งที่ 2 เพื่อนำผลตรวจประกอบสำนวนฟ้อง น้องมายด์บอกว่าในทางคดีความตอนนี้ตำรวจแจ้งเพียงข้อกล่าวหาเดียวคือทำให้ตกใจกลัวและปรับเงินเพียง 1,000 บาทแล้วปล่อยตัวไป ส่วนข้อหาทำร้ายร่างกายตำรวจบอกว่าต้องรอผลแพทย์ภายใน 45 วัน ซึ่งเป็นเวลานานมาก กลัวว่านายแพรจะย้อนกลับมาทำร้ายร่างกายตนอีก อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและจะไม่ยอมความแม้ว่านายแพรจะมาขอโทษก็ตาม
“เรื่องเงินที่ไปกู้มายืนยันจะชดใช้อย่างแน่นอน ส่วนเรื่องคดีความก็ว่ากันตามกฎหมาย และมีความกังวลในเรื่องความปลอดภัย ต้องการให้ผู้ก่อเหตุเลิกพฤติกรรมข่มขู่ทำร้ายร่างกายเสียที อยากได้รับคำยืนยันว่าครอบครัวดิฉันจะปลอดภัย” น้องมายด์กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า ในทางคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำพร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อเหตุ 2 ข้อหา คือ ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ และข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ได้นัดผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่มเติมเพื่อเร่งสรุปสำนวนในคดี
ส่วนอาวุธที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุนั้นเป็นปืนบีบีกัน ไม่เข้าข่ายความผิด ส่วนประเด็นนายทุนเงินกู้ตามที่ผู้เสียหายระบุ สอบสวนนายแพรให้การว่า ผู้เสียหายยืมเงินหลักหมื่นหลายครั้งรวมเป็นเงิน 130,000 บาท และไม่มีการจ่ายคืนจึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุขึ้น ทางตำรวจจะได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป