เชียงใหม่ - นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) ชี้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่เชียงใหม่ส่งผล นักท่องเที่ยวทั่วไปยกเลิกจองห้องพักภาพรวมแค่ประปราย 3-5% เท่านั้น ส่วนกลุ่ม อปท.ที่เป็นหมู่คณะและกลุ่มใหญ่ขอเลื่อนไปเดือนหน้า วอนทุกคนเชื่อมั่น ยันยังไร้การแพร่ระบาดและไม่มีล็อกดาวน์
วันนี้ (4 ธ.ค. ) นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) กล่าวถึงสถานการณ์การจองห้องพักโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากที่มีการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ว่า ภาพรวมตั้งแต่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมายอมรับว่ามีการยกเลิกการจองห้องพักเข้ามาบ้าง อย่างไรก็ตาม เป็นเพียงประปรายเท่านั้น และบางกลุ่มที่มีการจองเป็นหมู่คณะมีการขอเลื่อนเวลาออกไปเป็นเดือนหน้าแทนเพื่อรอดูสถานการณ์อีกครั้ง ซึ่งกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นคณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ขณะที่นักท่องเที่ยวทั่วไปที่มีการจองห้องพักไว้นั้น ส่วนใหญ่ไม่มีการยกเลิกแต่อย่างใด และพร้อมที่จะเดินทางท่องเที่ยวตามปกติ เพียงแต่อาจจะมีการสอบถามสถานการณ์เข้ามา ซึ่งก็ได้เน้นย้ำว่าสถานการณ์ยังปกติดีและไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่แต่อย่างใด ตลอดจนไม่มีการล็อกดาวน์ด้วย หากเข้ามาท่องเที่ยวก็เพียงปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและเว้นระยะห่างสังคมเท่านั้น โดยการยกเลิกที่มีคิดเป็นเพียงประมาณ 3-5% เท่านั้น
สำหรับการบริหารจัดการและควบคุมสถานการณ์ของภาครัฐนั้น นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) บอกว่า เชื่อมั่นว่าทั้งจังหวัดเชียงใหม่และทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องมีความพยายามในการทำงานอย่างหนัก เพื่อควบคุมสถานการณ์และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ หากจะมีข้อเสนอแนะก็คืออยากให้มีการออกประกาศต่างๆ เพื่อสร้างชัดเจนเกี่ยวสถานการณ์อย่างฉับไว เป็นการสร้างความเชื่อมั่นและป้องกันไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก
ด้านจังหวัดเชียงใหม่มีการออกประกาศจังหวัดเชียงใหม่ ลงนามโดยนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 63 เนื้อหาระบุว่า จนถึงเวลานี้ยังไม่มีหลักฐานว่ามีการแพร่ระบาดในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม จังหวัดเชียงใหม่ได้ยกระดับมาตรการในการป้องกันโรคทั้งจังหวัด โดยให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคทุกระดับ ออกตรวจตรา ติดตาม และกำชับให้สถานประกอบการทุกประเภทในพื้นที่ เพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองผู้เข้าไปใช้บริการในสถานประกอบการของตน โดยเฉพาะการสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หรือสบู่ และการลงทะเบียนในแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” โดยรายงานผลการปฏิบัติให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ทราบทุกวัน พร้อมทั้งสุ่มตรวจโรคโควิด-19 ในเชิงรุกสำหรับพนักงานที่มีโอกาสสัมผัสกับบุคคลอื่นในสถานประกอบการทุกแห่ง
นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้อาสาสมัครโควิดหมู่บ้าน-ชุมชน ค้นหาผู้เข้าไปในหมู่บ้านหรือชุมชนให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น อีกทั้งได้สั่งการให้บูรณาการหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่อำเภอชายแดนทุกอำเภอ จัดชุดลาดตระเวนช่องทางเข้าออกธรรมชาติตลอดยี่ 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ผ่านการกักตัวตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด และจังหวัดเชียงใหม่ได้หารือกับภาคเอกชน ในการร่วมกันวางมาตรการและแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 จังหวัดเชียงใหม่จึงได้ดำเนินการตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) อย่างเข้มงวดในทุกสถานที่ และการดูแลตนเองของประชาชน
