นครปฐม - พ่อผัวเครียดจัดทรมานป่วยเป็นโรคมะเร็ง คว้าปืนยิงใส่ลูกสะใภ้ขณะกำลังเก็บกระชายหลังบ้านเตรียมเอาไปขาย เสียชีวิต หลังก่อเหตุกลับไปเขียนจดหมายลาตาย ยิงตัวเองหนีความผิด ด้านคนในบ้านและเพื่อนบ้านไม่มีใครให้ข้อมูล
วันนี้ (21 พ.ย.) พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรศรีนวล ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันตาย 2 ศพ ที่บ้านเลขที่ 78/5 ม.5 ต.ทัพหลวง อ.เมืองนครปฐม จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปิยพงษ์ กล้วยไม้ รองผู้กำกับการสืบสวน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แพทย์เวร รพ.ศูนย์นครปฐม เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้น ที่หน้าบ้านข้างโรงจอดรถ พบศพ นายสุวรรณ เจกบุตร อายุ 64 ปี นอนเสียชีวิตบนเปลผ้า สภาพศพนอนหงายหัวตกลงมาจากเปล มีบาดแผลถูกยิงที่หัว มันสมองตกกระจายอยู่ที่พื้น ใกล้มือขวา พบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
ตรวจสอบหลังบ้านซึ่งเป็นโรงไม้ที่เก็บผักสด พบศพ น.ส.บุญรัตน์ แสงชัญ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 ม.8 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.กำแพงเพชร นอนเสียชีวิตสภาพนอนหงายแต่ก้นยังนั่งทับเก้าอี้ไม้แบบนั่งกับพื้น โดยชูมือ 2 ข้าง มีบาดแผลถูกยิงที่ปลายคาง 1 นัด มีปลอกกระสุนตกหลายปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
โดยที่มือทั้ง 2 ข้างยังสวมถุงมือยาง ติดกันยังมีตะกร้าพลาสติกที่มีกระชายอยู่ภายใน และที่หลังบ้านยังมีกระชายที่เก็บมารอการเก็บไปจำหน่ายอยูหลายถุง และในบ้านพบจดหมายที่นายสุวรรณ ได้เขียนระบายเอาไว้ตกอยู่ 1 ฉบับ มีข้อความระบุทำนอง ว่า ไม่ต้องเสียใจที่ตนต้องตายเพราะมีความเจ็บปวดทรมาน ลงท้ายถึง คนชื่อนุ้ย ผู้เป็นลูก
โดยเบื้องต้นสอบถาม ทราบว่า นายสุวรรณ เป็นพ่อสามีของ น.ส.บุญรัตน์ ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน โดยบ้านนี้มีอาชีพขายผักสวนครัว คาดว่าแรงจูงใจน่าจะเกิดจากความเครียดที่นายสุวรรณป่วยเป็นโรคมะเร็งที่กำลังรักษาตัวอยู่ ประกอบกับอาจจะมีความขัดแย้งกับ น.ส.บุญรัตน์ ลูกสะใภ้มานาน เมื่อคิดว่าตนเองจะต้องตายจึงได้คว้าอาวุธปืนไปยิงลูกสะใภ้ขณะกำลังบรรจุกระชาย เพื่อเตรียมนำไปขายจนเสียชีวิต ก่อนจะมานอนที่เปลผ้าแล้วยิงหัวตัวเองเพื่อจบปัญหาที่คาใจและความทรมานที่กำลังเป็นอยู่
ในขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังจะสอบถามข้อมูลสามีของ น.ส.บุญรัตน์ ได้พยามยามไม่ให้มีการเก็บข้อมูล และเมื่อไปสอบถามเพื่อนบ้านต่างก็ไม่มีใครให้ข้อมูล ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บข้อมูลเชิงลึกและส่งศพทั้งคู่ไปผ่าชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดต่อไป
