อุทัยธานี - หนุ่มไม่เกรงกลัวนรก ย่องทุบตู้รับบริจาคกองผ้าป่าวัดเมืองอุทัยธานีกลางวันแสกๆ ฉกเงิน 420 บาท กล้องวงจรปิดจับภาพชัด สุดท้ายโดนตำรวจรวบทันควัน อ้างหน้าตาเฉยพระพุทธรูปพยักหน้าอนุญาตแล้ว
วันนี้ (19 พ.ย. 63) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองอุทัยธานี นำโดย พ.ต.ท.สามารถ สุคง สารวัตรปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองอุทัยธานี พร้อมด้วย ร้อยตำรวจเอก จรัญ ศรีทับทิม ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองอุทัยธานี ร่วมกันสืบสวนสอบสวน นายน้อย ทับทิม อายุ 43 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 3 ตำบลหนองไผ่แบน อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี หลังได้รับแจ้งจากคณะกรรมการวัดหลวงราชาวาส เขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วานนี้ (18 พ.ย. 63) มีคนร้ายเข้าไปทุบตู้บริจาคและขโมยเงินจากไม้เสียบกองผ้าป่าที่ตั้งอยู่ภายในศาลาวัดโดยไม่ทราบจำนวน ซึ่งในช่วงนั้นที่วัดกำลังมีการจัดงานบวชอยู่ จึงทำให้ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ขณะที่คนร้ายลงมือก่อเหตุ แต่กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ภายในศาลาวัดสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ ทางวัดจึงนำภาพดังกล่าวมอบแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดี
ทั้งนี้ ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน และมีรูปพรรณสัณฐานคล้ายกับนายน้อยเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองอุทัยธานีจึงได้สืบสวนติดตามจนพบตัวนายน้อยได้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นนายน้อยกำลังเดินอยู่บริเวณถนนแถวหน้าบ้านตัวเอง โดยเมื่อนายน้อยเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามขี่รถจักรยานยนต์เพื่อเลี่ยงการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนสุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเชิญตัวนายน้อยมาที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอุทัยธานีเพื่อทำการสืบสวนสอบสวน พร้อมกับให้กรรมการวัดดูตัวเพื่อชี้ชัดว่าบุคคลในกล้องวงจรปิดนั้นคือนายน้อยจริงหรือไม่ จนสุดท้ายนายน้อยให้การรับสารภาพว่าคือคนที่อยู่ในภาพกล้องวงจรปิดและขโมยเงินจากวัดออกไปจริง
ทั้งนี้ จากการขอตรวจค้นตัวนายน้อย พบว่ามีเงินสดอยู่ในตัวทั้งสิ้น 420 บาท โดยนายน้อยอ้างว่าเป็นเงินที่ขโมยมาจากวัดทั้งหมดและยังไม่ได้ใช้ พร้อมให้การรับสารภาพว่าสาเหตุที่ตนลงมือก่อเหตุนั้นเกิดจากอาการมึนเมา โดยในวันเกิดเหตุตนได้ดื่มเบียร์ พอเกิดอาการเมาไม่ได้สติจึงเข้าไปลักเงินในตู้บริจาคและดึงเงินจากไม้ผ้าป่าที่เสียบไว้ แต่ก่อนที่จะหยิบเงินมานั้นตนก็ได้ขออนุญาตพระแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสอบถามกลับไปว่าขออนุญาตจากพระรูปไหน นายน้อยได้บอกว่าขอกับหลวงพ่อซึ่งก็คือพระพุทธรูปที่อยู่ภายในศาลา นายน้อยกล่าวว่า พอยกมือไหว้ขอเงินแล้วพระพุทธรูปก็พยักหน้าอนุญาต ตนจึงได้หยิบเงินบริจาคออกมาดังกล่าว โดยเมื่อหลายปีที่ผ่านมานั้นนายน้อยเคยถูกดำเนินคดีจำคุกในข้อหาคดียาเสพติดด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตั้งข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถานดำเนินคดีต่อไป
