เชียงใหม่ - ท้าพิสูจน์แลนด์มาร์กใหม่แม่แรม อุโมงค์สตรอว์เบอร์รียาวที่สุดในอำเภอแม่ริม ชวน นทท.เก็บผลสดๆ จากแปลงปลูก พร้อมท่องทุ่งดอกไม้หลากสีสัน ท่ามกลางอ้อมกอดขุนเขาและสัมผัสวิถีชีวิตวัฒนธรรมหลายชนเผ่า
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ในช่วงนี้ที่ย่างเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวส่งผลให้บรรยากาศการท่องเที่ยวมีแนวโน้มคึกคักขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพื้นที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นจุดหมายหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยวจากการที่มีแหล่งท่องที่ยวและกิจกรรมหลายหลาย ทั้งธรรมชาติป่าเขาวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และการท่องเที่ยวเชิงผจญภัย รวมทั้งการเที่ยวชมและเก็บชิมสตรอว์เบอร์รีสดๆ จากแปลงปลูก
นอกจากนี้ อีกหนึ่งกิจกรรมที่ทุกวันนี้ได้รับความนิยมชื่นชอบอย่างมากของนักท่องเที่ยวก็คือการเดินท่องทุ่งกว้างที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายสีสันสวยงามพร้อมกับถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
ล่าสุดโดยการนำของ นายวรากร อภิชัย อายุ 30 ปี เกษตรกรและนักธุรกิจหนุ่ม ซึ่งเป็นคนท้องถิ่นอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงทุนในนามห้างหุ้นส่วนจำกัดไร่ชาเฉิงฟู่ โฮมสเตย์ เช่าที่ดินระยาว 15 ปี พื้นที่ 18 ไร่ ในตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม ตั้งอยู่ติดริมถนนฝั่งขวามือก่อนปากทางเข้าน้ำตกแม่สาประมาณ 1 กิโลเมตร เริ่มทำการพัฒนาพื้นที่ตั้งแต่ ก.พ. 63 เป็นต้นมา เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของอำเภอแม่ริม ที่รวบรวมกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวิถีชีวิตวัฒนธรรมไว้ครบครัน ทั้งสวนสตรอว์เบอร์รี, สวนดอกไม้หลากหลายสีสันนานาพรรณ และวิถีชีวิตของหลายชนเผ่า พร้อมเปิดให้ชาวบ้านชุมชนใกล้เคียงเข้ามามีส่วนร่วมในการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อสร้างรายได้ด้วย
นายวรากรบอกว่า แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่นี้คืออุโมงค์สตรอว์เบอร์รี, ทุ่งดอกไม้ไร่กลิ่นเกสร และไร่ชาเฉิงฟู่ รวมทั้งสนามล้อเลื่อนไม้หรือฟอร์มูลาม้ง และโฮมสเตย์ ที่รวมกันอยู่ในพื้นที่ 18 ไร่ ที่โอบล้อมด้วยภูเขาและอากาศเย็นสบายตลอดปี ซึ่งตั้งใจจะให้เป็นแลนด์มาร์กของอำเภอแม่ริม
จุดเด่นอยู่ตรงอุโมงค์สตรอว์เบอร์รีที่ทำจากไม้ไผ่สานยาว 50 เมตร ที่ประดับประดาสวยงามด้วยตุงและต้นสตรอว์เบอร์รี พร้อมที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารกลางแปลงปลูกสตรอว์เบอร์รีให้นักท่องเที่ยวเดินเล่น, ถ่ายภาพ และนั่งพักผ่อนได้ ซึ่งที่ด้านท้ายอุโมงค์และสองข้างทางจะเป็นแปลงปลูกสตรอว์เบอร์รี ให้เดินเล่นและสามารถเก็บผลผลิตสดๆ ได้ รวมทั้งมีมุมถ่ายภาพสวยๆ โดยเฉพาะชิงช้าสวรรค์กลางแปลงปลูก ซึ่งในส่วนของอุโมงค์สตรอว์เบอร์รีนี้จะเปิดให้เข้าชมฟรี พร้อมมีการจำหน่ายอาหาร, ขนม, เครื่องดื่ม และผลิตภ้ณฑ์แปรรูปจากสตรอว์เบอร์รี
ขณะที่อีกหนึ่งจุดเด่นของพื้นที่คือในส่วนของทุ่งดอกไร่กลิ่นเกสร ที่จะเป็นทุ่งปลูกดอกไม้นานาพรรณสีสันสวยงาม เช่น คอสมอส, มาร์กาเร็ต, บานไม่รู้โรย, คัตเตอร์ เป็นต้น ซึ่งปลูกเต็มพื้นที่ 9 ไร่ และจะมีการสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนปลูกดอกต่างๆ เต็มตลอดทั้งปี ให้นักท่องเที่ยวได้เดินเที่ยวชมดื่มด่ำความสวยงามและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก โดยมีการจัดมุมถ่ายภาพไว้รองรับหลายจุด เช่น ชิงช้า, ซุ้มดอกไม้, บันไดระเบียงสูง 5 เมตรกลางทุ่งดอกไม้, รถล้อเลื่อนไม้ เป็นต้น ซึ่งในส่วนของทุ่งดอกไม้นี้จะมีการเก็บค่าเข้าชมเพื่อบำรุงสวนคนละ 40 บาท
ในส่วนของทุ่งดอกไม้และอุโมงค์สตรอว์เบอร์รีนั้นจะมีซุ้มจำหน่ายผลผลิตเกษตร, ของที่ระลึกและผลิตภัณฑ์ของชุมชน และชนเผ่าต่างๆ เช่น ม้ง, กะเหรี่ยงคอยาว เป็นต้น เป็นการสร้างรายได้ให้ชุมชนท้องถิ่น ซึ่งนักท่องเที่ยวยังสามารถถ่ายภาพที่ระลึกร่วมกับหญิงสาวในชุดประจำชนเผ่าได้ด้วย
สำหรับการเปิดให้บริการอุโมงค์สตรอว์เบอร์รีและทุ่งดอกไม้ไร่กลิ่นเกสร นายวรากรบอกว่า เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เช้า ถึง 20.00 น. พร้อมทั้งมีบริการอาหาร เครื่องดื่ม และที่พักแบบโฮมสเตย์ด้วย ส่วนไร่ชาและสนามล้อเลื่อนไม้หรือฟอร์มูลาม้งนั้นกำลังเร่งเปิดให้ทันช่วงปีใหม่นี้ โดยทั้งพื้นที่น่าจะเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ไม่เกินกลางปี 64 แต่ช่วงฤดูหนาวนี้ก็พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างดีเช่นกัน