xs
xsm
sm
md
lg

เจาะสูตรสำเร็จสาววังทอง..ไม่ถึง 10 ปี ปั้น “ชาบูอินดี้” จากยอดขายวันละ 500 บาท กลายเป็น 2,000 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พิษณุโลก - เจาะเบื้องหลังความสำเร็จ “ชาบู อินดี้” ธุรกิจสาววังทองโคตรอินดี้..จากยอดขายวันละ 500 บาท ไม่ถึง 10 ปีขยายแฟรนไชส์ได้ครบทุกภาค 121 สาขา สร้างมูลค่าธุรกิจรวมกว่า 2,000 ล้าน แถมตั้งเป้าจะเอาให้ครบทุกอำเภอทั่วไทย


อาจจะเป็นได้มากกว่ากรณีศึกษาทางธุรกิจสุดคลาสสิก..สำหรับ “ร้านชาบู อินดี้” ที่นับจากวันแจ้งเกิดธุรกิจสาขาแรกที่โคราชเมื่อ 4 ต.ค. 54 มาถึงปี 63 ย่างเข้าสู่ปีที่ 10 น.ส.สุภัทรา ดวงงา สาววังทองเมืองสองแคว อายุ 33 ปี หรือ “น้องปู” กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินดี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้นำธุรกิจที่เคยมียอดขายแค่วันละ 500 บาท กลายเป็นธุรกิจที่มีมูลค่ารวมถึง 2,000 กว่าล้านบาทได้อย่างเต็มภาคภูมิ

น้องปู-น.ส.สุภัทรา ดวงงา สาวบ้านเนินสว่าง หมู่ 4 ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก จบการศึกษาระดับชั้น ปวช.เอกการบัญชี จากวิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก แล้วได้โควตาไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ บอกว่าพ่อแม่มีอาชีพทำนา ตนจึงต้องช่วยพ่อแม่ทำนามาตั้งแต่เด็ก


ระหว่างที่เรียนอยู่วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลกก็ต้องทำงานพิเศษเป็นเด็กชงกาแฟ ได้เงินเดือน 4,000 บาท โดยหวังว่าจะช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว จากนั้นก็ไปเป็นเด็กเสิร์ฟเพราะเห็นว่าได้เงินจากทิปมากกว่า ซึ่งตอนนั้นเฉลี่ยแล้วก็ได้ราวๆ เดือนละ 5,000 บาท ก่อนตัดสินใจทำงานเป็นสาวเชียร์เบียร์ตอนอายุ 18 ปีเพราะพ่อป่วยเป็นโรคตับแข็ง ตนจึงต้องหารายได้จุนเจือครอบครัว จนเรียนจบ ปวส.ตอนอายุได้ 22 ปี พร้อมมีเงินเก็บกว่า 50,000 บาท

“พอเรียนจบก็ไม่อยากทำงานประจำ เรามีเงินเก็บส่วนหนึ่งก็ไปซื้อหุ้นร้านอาหารร้านเหล้ากับแฟนที่โคราช แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะร้านประเภทนี้ต้องมีกุ๊ก ต้องมีนักดนตรี ซึ่งมีวันหนึ่งเราทะเลาะกับกุ๊ก เรารู้สึกว่าขายของไม่ได้ และคิดว่าทำไมธุรกิจเราเองแท้ๆ แต่เราคอนโทรลไม่ได้ ต้องไปพึ่งกุ๊ก พึ่งนักดนตรี พึ่งคนอื่นทำไม เลยตัดสินใจขายหุ้นร้านอาหารร้านเหล้าไป แล้วคุยกับแฟนว่าหาอะไรทำแบบง่ายๆ ดีกว่า”

สาววังทอง-กรรมการผู้จัดการชาบูอินดี้ เล่าต่อว่า เราจบจากมหาวิทยาลัยจากกรุงเทพฯ สมัยนั้นมีร้านชาบูในห้างฯ พอเราไปอยู่โคราชมันไม่มีชาบู มีแต่หมูกระทะ ก็เลยคิดว่าอยากจะเอาชาบูในห้างฯ มาอยู่นอกห้าง ไม่ต้องเหมือนคนอื่นให้ผิดไปจากเดิมไปเลย จึงเริ่มลองทำน้ำซุป ลองทำน้ำจิ้ม แล้วหาทำเลเปิดร้านด้วยเงินทุนก้อนแรก 450,000 บาท

“เพราะเราคิดว่าง่าย เราอยากทำอะไรที่มันง่าย ทุกคนในร้านของเราสามารถทำได้ เลยตัดสินใจทำร้านชาบูร้านแรกที่โคราช โดยเขียนสูตรน้ำซุป เขียนสูตรน้ำจิ้มขึ้นมา”


เหตุผลที่ใช้ชื่อ ชาบู อินดี้ ก็คือ “ชาบู” เป็นลักษณะของธุรกิจที่เราทำ ส่วนคำว่า “อินดี้” เป็นคำที่นำมาประกอบกันด้วยความที่เราเป็นคนที่ไม่ชอบกฎเกณฑ์อะไรเยอะๆ ไม่ชอบความที่ต้องอยู่ในกรอบแบบที่ทุกอย่างต้องเป๊ะๆ เราชอบอะไรประมาณนี้ ทุกอย่างต้องง่าย ทุกคนต้องทำแทนกันได้ ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น ไม่ต้องพึ่งพากุ๊ก พึ่งพาเชฟ พึ่งพาคนอื่น เรามีพนักงาน 10 คนก็ต้องสามารถทำแทนกันได้หมด เพราะน้ำซุปน้ำจิ้มเรามีสูตรอยู่แล้ว

น้องปูเล่าต่อว่า วันแรกที่เราวางแผนไว้ว่าอยากขายได้วันละ 10,000-15,000 บาท แต่ด้วยต้นทุนในการลงทุนจำกัดจึงไม่ได้อย่างที่คิด เพราะขายวันแรกได้วันละ 500 บาท แล้วขยับมาเป็นวันละ 1,000-2,000 บาท จากนั้นก็ค่อยๆ ปรับรสชาติ ปรับวิธีการขาย จนถึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้ร้านดังขึ้นถูกแชร์ต่อทางโลกออนไลน์เพราะเกิดจากการเปลี่ยนวิธีการนำเสนอเสิร์ฟ

“ปกติเราเสิร์ฟในถาดแบบคอนโดฯ เล็กๆ โดยใช้ราคาเป็นตัวดึงดูดลูกค้า แต่มันไม่ใช่ลูกค้ามากินแล้วอร่อยจึงไปบอกต่อ สิ่งที่เขาบอกต่อให้เราได้คือความประทับใจ จึงปรับเปลี่ยนเป็นใส่จานจัดวางให้สวยแล้วเสิร์ฟให้ลูกค้าเลย”

เริ่มธุรกิจชาบูที่โคราชวันที่ 4 ต.ค. 2554 พอเราปรับวิธีการเสิร์ฟนำเสนอทุกอย่างเริ่มดีขึ้น จนเห็นว่าธุรกิจนี้ไปรอด จึงเปิดร้านที่ 2 และด้วยความอยากอยู่ใกล้ๆ ครอบครัว ปี 2556 ก็เลยมาเปิดร้านอยู่ที่ถนนประชาอุทิศ อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งตอนนั้นลูกค้าให้การตอบรับดี


“หลายคนชื่นชอบที่เรากลับมาอยู่พิษณุโลก และเริ่มถามเข้ามาบ่อยๆ ทำนองว่าอยากมีร้านแบบนี้ อยากได้ธุรกิจแบบนี้ไปทำบ้าง ก็เกิดแนวคิดขายแฟรนไชส์ จากนั้นก็ไปสอนให้อีกหลายคนทำธุรกิจและไปเป็นที่ปรึกษาให้เขา ก่อนเริ่มระบบแฟรนไชส์ในปี 2557 โดยขายแฟรนไชส์ 150,000 บาท”

แต่พอเปิดได้ประมาณ 10 สาขาก็เริ่มมีปัญหา มีคำถามจากผู้บริโภคว่ารสชาติอาหารแต่ละสาขาไม่เหมือนกัน เลยคิดว่าถ้าสอนเขาอย่างเดียวโดยไม่ได้ตั้งกฎเกณฑ์อะไรก็จะขยายสาขามากกว่านี้ไม่ได้ เพราะการปรุงน้ำซุปน้ำจิ้มแต่ละสาขาไม่เหมือนกัน จึงปรับเปลี่ยนแฟรนไชส์ใหม่


โดยกำหนดรูปลักษณ์ อุปกรณ์ ป้ายหน้าร้าน ชื่อโลโก้ เพื่อสร้างมาตรฐานให้แก่แบรนด์ชาบูอินดี้ นำเอาระบบบัญชี ระบบการบริหารจัดการมาลง และหาระบบขายหน้าร้านมาให้ลูกค้าแฟรนไชส์ใช้ เน้นเรื่องวัตถุดิบต้องมีคุณภาพและได้มาตรฐาน พร้อมปรับราคาแฟรนไชส์ 500,000 บาท สำหรับร้านไซส์ใหญ่ 40 โต๊ะ และ 250,000 บาท สำหรับร้านไซส์เล็ก 12 โต๊ะ ปรับอายุสัญญาเป็น 5 ปี ปรับเงื่อนไขใหม่ บริษัทจะเป็นผู้ส่งน้ำจิ้มน้ำซุปสำเร็จรูปให้ทั้งน้ำซุปญี่ปุ่น น้ำซุปเกาหลี น้ำจิ้มซีฟูด น้ำจิ้มสุกี้ ซึ่งมีรสชาติจัดจ้านถูกปากคนไทย

และเพื่อความเป็นมาตรฐาน จึงได้ออกแบบ ตกแต่ง รับเหมาก่อสร้างร้านให้ได้มาตรฐานตามที่กำหนด รวมถึงสำรวจทำเลที่ตั้งของร้าน ทำให้ชาบูอินดี้เติบโตแบบก้าวกระโดด ปัจจุบันมีถึง 121 สาขา เฉพาะในกรุงเทพฯ ประมาณ 50 แห่ง ครบทุกภาคทั่วประเทศ แต่ยังไม่ครบทุกจังหวัด สาขาล่าสุดคือที่ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย


“เคล็ดลับชาบูอินดี้ คือน้ำซุป และน้ำจิ้มที่มีหลากหลาย อีกส่วนก็มาจากการตั้งราคาที่เข้าถึงง่าย อย่างในต่างจังหวัด 299 บาท กรุงเทพฯ 299/399บาท แถมยังรับประทานได้ไม่จำกัดเวลา แต่ละสาขามียอดขายเดือนละ 1 ล้านบาท มีมูลค่าธุรกิจรวมกว่า 2,000 ล้านบาท”

กรรมการผู้จัดการชาบูอินดี้บอกว่า 121 สาขาในปัจจุบันอาจจะดูมาก แต่เป้าหมายจริงๆ ในใจเราอยากให้ชาบูอินดี้ลงไปถึงทุกอำเภอทั่วประเทศไทยที่มีอยู่ประมาณ 800 อำเภอ ทั้งนี้สนใจติดต่อร้านฯผ่านเพจ Facebook/Shabu indyหรือโทรศัพท์สอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์โทรร้าน 055-008443และที่สำคัญชาบูอินดี้สาขาพิษณุโลกยังเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น