ชัยนาท - พาณิชย์จังหวัดชัยนาท ดึงห้างค้าส่งค้าปลีกร่วมโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน Lot 7 ทำชาวบ้านดีใจแห่ซื้อสินค้ากันคึกคัก เพื่อลดค่าใช้จ่าย
วันนี้ (13 พ.ย.) น.ส.ศรุดา นรสิงห์ พาณิชย์จังหวัดชัยนาท พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดชัยนาท ลงพื้นที่ตรวจสอบ ติดตาม กำกับดูแลห้างสรรพสินค้าในพื้นที่อำเภอเมืองชัยนาท ที่เข้าร่วมโครงการ “พาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน Lot 7” ตามนโยบายของรัฐบาลในการช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน
น.ส.ศรุดา นรสิงห์ พาณิชย์จังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง ประชาชนได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในการช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชน โดยร่วมกับภาคเอกชน ประกอบด้วย ผู้ผลิต ผู้จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ และห้างท้องถิ่นทั่วประเทศ ลดราคาจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ลดราคาสินค้าสูงสุดร้อยละ 70 โดยที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินโครงการพาณิชย์ลดราคา Lot ที่ 1 ถึง Lot ที่ 6 มาแล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี จึงได้มีโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน Lot 7 ขึ้นในระหว่างวันที่ 1-30 พฤศจิกายน 2563 เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน
สำหรับจังหวัดชัยนาท มีผู้จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส Tesco lotus express ซีเจซุปเปอร์มาเกต มินิบิ๊กซี เซเว่นอีเลฟเว่น รวมทั้งสิ้น 48 สาขาได้เข้าร่วมโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน Lot 7 โดยลดสินค้าอุปโภคบริโภคและของใช้ในชีวิตประจำวันสูงสุดถึง 70% เช่น ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส มีการจัดลดราคาสินค้ามากกว่า 40 รายการ
ส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ข้าวหอมมะลิ น้ำมันพืช ผงซักฟอก กระดาษชำระ นอกจากนี้ ยังมีอาหารสด ผักและผลไม้ต่างๆ ก็นำมาลดราคาด้วยเช่นกัน
“จึงขอเชิญชวนประชาชนเลือกซื้อสินค้าที่ร่วมลดราคาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากพบการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดชัยนาท หรือสายด่วน 1569” น.ส.ศรุดา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากโครงการพาณิชย์ลดราคาดังกล่าว ทำให้ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าซูเปอร์มาร์เกตที่ร่วมโครงการในพื้นที่จังหวัดชัยนาท มีประชาชนเข้าไปจับจ่ายซื้อสินค้าลดราคากันอย่างคึกคัก โดยต่างบอกว่ารู้สึกชอบและดีใจที่มีโครงการนี้เกิดขึ้น เพราะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในครอบครัวลงได้มาก โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคที่ต้องกินต้องใช้ทุกวัน สามารถซื้อได้ในราคาถูกลงจากเดิมเกือบครึ่ง จึงอยากให้มีโครงการลดราคาแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
เพราะจากภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์โรคโควิด-19 ทำให้มีรายได้ลดลง ต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด ซึ่งหากมีการจัดโครงการลดราคาสินค้าเช่นนี้อย่างต่อเนื่องก็จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้เป็นอย่างมาก