เชียงใหม่ - สสจ.เชียงใหม่เผยผลตรวจกลุ่มเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดกับชายชาวอินเดียติดโควิด-19 ที่มาเที่ยวเชียงใหม่ พบทั้ง 39 รายผลเป็นลบ ขณะที่ล่าสุดพบผู้ที่สัมผัสบนเครื่องบินอีก 3 รายเชิญมาตรวจแล้ว และกำลังตามตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีก 1 รายที่เข้าไปเที่ยวสถานบันเทิงเดียวกันมาตรวจ
วันนี้ (10 พ.ย. 63) นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายแพทย์ กิตติพันธุ์ ฉลอม ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสสัมผัสใกล้ชิดกับชายชาวอินเดียที่อาศัยอยู่ในจังหวัดกระบี่ ซึ่งเดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังเดินทางกลับไปก็ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 โดยหลังจากนั้นสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ทำการสอบสวนโรคเบื้องต้นพบว่ามีผู้สัมผัส 39 ราย จึงเชิญตัวเข้ามาเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งนำไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 เมื่อวานนี้ (9 พ.ย. 63) ในจำนวนนี้เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 2 ราย คือ พนักงานขับรถแท็กซี่และพนักงานขับรถของโรงแรม เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 37 ราย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ในท่าอากาศยานเชียงใหม่ 20 ราย พนักงานต้อนรับ และพนักงานทำความสะอาดของโรงแรม 13 ราย เจ้าหน้าที่บริษัทรถเช่าอีก 4 ราย ซึ่งผลตรวจทั้งหมดเป็นลบ
นอกจากนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ยังได้ติดตามพบผู้สัมผัสบนเครื่องบินที่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มอีก 3 ราย ซึ่งได้รับการเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจหาเชื้อแล้วในวันนี้ อยู่ระหว่างรอผล ขณะที่การตรวจสอบผู้สัมผัสจากกล้องวงจรปิดของสถานบันเทิงที่ผู้ป่วยได้เดินทางไปใช้บริการในวันที่ 30 ต.ค. 2563 พบผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 1 ราย อยู่ระหว่างการติดต่อเพื่อตรวจหาเชื้อ ตลอดจนยังได้ส่งข้อมูลผู้ป่วย รวมถึงป้ายทะเบียนรถเช่า เพื่อให้ตำรวจได้ตรวจสอบการเดินทางในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติมต่อไปด้วย
นายแพทย์ กิตติพันธุ์กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า มาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้รับฟังความคิดเห็นทั้งภาคประชาชนและผู้ประกอบการเพื่อให้สามารถป้องกันควบคุมโรคได้ โดยมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและเศรษฐกิจให้น้อยที่สุด จึงมีแนวทางการแจ้งชื่อสถานที่พร้อมวันเวลาเพื่อติดตามผู้สัมผัสกรณีที่มีเหตุสงสัยว่าจะเกิดการระบาดในสถานที่แห่งนั้น เช่น พบว่ามีผู้ติดเชื้อจากผู้ป่วยในสถานที่นั้นๆ ดังที่ได้เคยมีการดำเนินการมา อย่างไรก็ตาม ผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงจะถูกติดตามโดยทีมสอบสวนโรค จากการระบุจากกล้องวงจรปิด และรายชื่อเช็กอินตามสถานที่ต่างๆ ทั้งนี้ หากพบมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทางทีมสอบสวนโรคจะมีการประกาศเพื่อค้นหาผู้สัมผัสรายต่อไปตามมาตรการของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และเน้นย้ำขอความร่วมมือประชาชนให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง เข้ารับบริการสถานที่ต่างๆ ลงทะเบียนด้วย "ไทยชนะ" ทุกครั้ง
สำหรับผู้ป่วยรายนี้เป็นเพศชาย สัญชาติอินเดีย อายุ 37 ปี อาชีพพนักงานในร้านอาหารจังหวัดกระบี่ ขณะนี้รักษาตัวที่โรงพยาบาลกระบี่ อาการทั่วไปปกติ ไม่มีไข้ ไอเล็กน้อย โดยเดินทางด้วยเครื่องบินมาที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนเช่ารถเดินทางต่อไปจังหวัดสุโขทัย และกลับมาขึ้นเครื่องกลับจากจังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน จากนั้นได้เข้าไปตรวจสุขภาพเพื่อขอใบอนุญาตทำงาน (work permit) ที่จังหวัดกระบี่ในวันที่ 4 พฤศจิกายน โดยมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย ซึ่งผลการตรวจครั้งแรกพบว่ามีปริมาณเชื้อจำนวนน้อยมาก และได้เก็บตัวอย่างตรวจซ้ำครั้งที่ 2 ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ผลไม่พบเชื้อ ประกอบกับผลการตรวจหาภูมิคุ้มกันโควิด-19 ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่าผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันชนิด IgG ซึ่งยืนยันว่ามีการติดเชื้อจริง แต่มีความเป็นไปได้ว่าผู้ป่วยได้ติดเชื้อมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์แล้ว จึงมีโอกาสต่ำมากที่จะแพร่เชื้อให้ผู้อื่นในระหว่างการเดินทางในจังหวัดเชียงใหม่ระหว่างวันที่ 30 ต.ค.-2 พ.ย. 63