ศูนย์ข่าวศรีราชา - พลิกวิกฤตเป็นโอกาส! ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวเมืองพัทยา ปรับธุรกิจแพโดดร่มเป็น “คาเฟ่ตกหมึก” ดึงดูดนักท่องเที่ยวไทย สร้าง รายได้เลี้ยงตนเองและลูกน้อง เผยเปิดบริการแค่ 2 เดือน มีผู้ติดตามเพจแล้ว 3.5 ล้านคน
แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยจะคลี่คลายมานานหลายเดือน ประกอบกับรัฐบาลยังได้ประกาศมาตรการคลายล็อกให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสามารถดำเนินธุรกิจเลี้ยงตัวเอง และพนักงานได้ตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
แต่ทว่ากิจการส่วนใหญ่ในเมืองพัทยา ที่ต้องพึ่งพาการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ กลับยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นตัวหรือเลี้ยงตัวเอง และพนักงานให้อยู่รอดได้อย่างปลอดภัย และในวันนี้ยังมีกิจการที่ต้องปิดตัวทั้งแบบชั่วคราวและถาวร ส่งผลให้แรงงานต่างถิ่นจำนวนมากต้องทยอยขนข้าวของเดินกลับสู่ภูมิลำเนา
และ 1 ในธุรกิจเมืองพัทยาที่ได้รับผลกระทบโดยตรงและหนักหน่วงคือ ผู้ประกอบธุรกิจเรือนำเที่ยวและบริการสันทนาการทางน้ำ ที่มีกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักคือ ชาวจีน ที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวเป็นกรุ๊ปหรือหมู่คณะ และยังชื่นชอบการท่องเที่ยวทางทะเลจนทำให้มีผู้ใช้บริการในธุรกิจกลุ่มนี้มากเฉลี่ยวันละ 8,000-10,000 คน
วันนี้เมื่อผู้ประกอบการต้องหยุดให้บริการแบบไม่มีกำหนด ผู้ประกอบการหลายรายได้หันไปจับธุรกิจเสริมที่สามารถรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย เพื่อประคองรายได้เลี้ยงตัวเองและพนักงาน เพื่อรอโอกาสทองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนอีกครั้ง
เช่นเดียวกับ นายณัฐพงค์ มานะสม ประธานกรรมการ บริษัท NPE จำกัด ผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวรายใหญ่ในเมืองพัทยา เผยว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวในเมืองพัทยาเงียบเหงาเป็นอย่างมาก และยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจเรือนำเที่ยวที่มีกว่า 100 ลำ ที่ต้องหยุดให้บริการแบบไม่มีกำหนด แต่ผู้ประกอบการกลับยังต้องเลี้ยงดูพนักงานบางส่วน
รวมทั้งต้องใช้เงินทุนที่มีในการบำรุงรักษาสภาพเรือให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายที่มีราคาแพง แม้จะลดจำนวนแรงงานและพนักงานที่ต้องดูแลไม้แล้วกว่า 80% ก็ตาม
“หลังรัฐบาลประกาศคลายล็อกให้ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการสามารถทำมาหากินได้อีกครั้ง เราก็พยายามหาวิธีที่จะพลิกวิกฤตให้มีโอกาสที่จะสร้างรายได้เลี้ยงดูตัวเองและพนักงานอีกครั้ง ด้วยการปรับเปลี่ยนรูปแบบงานบริการจากเรือข้ามฟากและแพลากร่ม มาเปิดแพลอยน้ำ “คาเฟ่ ตกหมึก N.P.E. พัทยา” รองรับตลาดนักท่องเที่ยวชาวไทย ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ลากร่มก็เก็บรักษาไว้เพื่อรอให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมา”
ประธานกรรมการ บริษัท NPE จำกัด ยังบอกอีกว่า “คาเฟ่ ตกหมึก N.P.E. พัทยา” เป็นคาเฟ่ตกหมึกบนแพใหญ่กลางอ่าวพัทยา ที่จะมีอุปกรณ์ตกหมึก และเหยื่อสำหรับบริการลูกค้า นอกจากนั้น บนแพยังมีบริการร้านอาหารสำหรับทำเมนูซาซิมิสด พร้อมน้ำจิ้มซีฟูด วาซาบิเสิร์ฟตลอดทริป
รวมทั้งยังมีดนตรีสดรองรับลูกค้าที่สามารถให้บริการต่อทริปได้มากถึง 250 คน โดยจะมีแพสำหรับให้บริการรวมทั้งสิ้น 3 แพ ซึ่งลูกค้าที่ใช้บริการสามารถขึ้นแพได้ที่ท่าเรือแหลมบาลีฮาย-พัทยา โดยบริษัทจะมีเรือเร็วพร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดเวลา และจะเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 17.00-23.00 น.
สำหรับสนนราคาค่าบริการต่อหัวอยู่ที่ 400 บาท สำหรับเด็กที่มีความสูงไม่ถึง 120 เซนติเมตรใช้บริการฟรี ส่วนเด็กที่มีความสูงเกิน 120-140 เซนติเมตร ทางแพคิดค่าบริการเพียงหัวละ 200 บาท
นายณัฐพงค์ ยังเปิดเผยอีกว่า คาเฟ่ตกหมึก N.P.E. พัทยา ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยทั้งในพื้นที่ และต่างจังหวัด จนมีผู้ติดตามเพจมากถึง 3.5 ล้านคน ทำให้พนักงานได้มีอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัว ในช่วงที่รอให้ธุรกิจหลักสามารถดำเนินการได้จากการกลับเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
