xs
xsm
sm
md
lg

ยึดได้ครั้งแรกในอีสาน! โคเคนเกรดส่งออกหนักกว่า 12 กิโลฯ มูลค่า 127 ล้านบาท เตรียมส่งออสเตรเลีย-อิสราเอล

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บึงกาฬ - ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรียึดโคเคนล็อตใหญ่ได้เป็นครั้งแรกในภาคอีสาน ลอบขนจากฝั่งลาวขึ้นฝั่งที่อำเภอปากคาดซุกซ่อนมากับกระเป๋านักเรียนและผลิตภัณฑ์ผ้าไหมน้ำหนักรวมกว่า 12 กิโลฯ เผยเป็นโคเคนบริสุทธิ์ 99% เกรดส่งออก มูลค่ากว่า 127 ล้านบาท มีปลายทางประเทศอิสราเอล และออสเตรเลีย

รายงานข่าวแจ้งว่า บ่ายวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่กอง ร้อย.ฉก.ทพ.2204 อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, พ.อ.พิทักษ์พล ชูศรี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21, พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.ภ.จ.บึงกาฬ, นายภิญโญ โฆษิต ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 4 พร้อมด้วยตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดโคเคน 12.160 กิโลกรัม และกัญชาจำนวน 570 แท่ง (570 กิโลกรัม) โดยยาเสพติดดังกล่าวลอบนำเข้ามาจากฝั่ง สปป.ลาว มูลค่ามากกว่า 127 ล้านบาท


การตรวจยึดยาเสพติดได้ในครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 63 เวลาประมาณ 19.00 น. กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี โดยกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2106 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 (หน่วยปกติกรมทหารพรานที่ 22) ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการลักลอบขนสินค้าเลี่ยงภาษีอากรจากฝั่งลาวข้ามมายังฝั่งไทย บริเวณเขื่อนป้องกันตลิ่งพังริมแม่น้ำโขง ท้ายบ้านศิวิไล หมู่ 5 ต.นากั้ง อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ จึงรายงานให้ พันเอก พิทักษ์พล ชูศรี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 ทราบ

จากนั้นจึงได้บูรณาการหน่วยงานฝ่ายทหารส่วนต่างๆ ร่วมด้วยกำลังตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรปากคาด และฝ่ายปกครองอำเภอปากคาด ร่วมกันวางกำลังพื้นที่เป้าหมาย ตั้งแต่บ้านต้าย ถึงบ้านศิวิไล หมู่ 5 ต.นากั้ง อ.ปากคาด กระทั่งเวลา 22.00 น. ได้ยินเสียงเรือกีบเพลายาวแล่นเข้ามาแล้วดับเครื่องเพื่อให้เรือไหลเข้ามาในพื้นที่

คาดว่ามีผู้โดยสารรวมคนขับนั่งมาในเรือ 3 คน เมื่อเรือเข้าจอดเทียบชายฝั่ง ชายในเรือได้ยกวัตถุสีดำขนาดใหญ่ขึ้นจากเรือและขนย้ายมาไว้บริเวณสันเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง ซุกซ่อนไว้ตามโพรงหญ้า จำนวน 5 ห่อ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อทำการตรวจสอบ แต่ชายทั้งสองคนได้อาศัยความมืดและความชำนาญในพื้นที่วิ่งหลบหนีไป ส่วนชายที่อยู่ในเรือได้สตาร์ทเรือและขับออกไปยังฝั่ง สปป.ลาวอย่างรวดเร็ว


จากการตรวจสอบพบเป็นวัตถุสีดำ จำนวน 5 ห่อ ด้านในเป็นผลิตภัณฑ์ผ้าไหม จำนวน 2 ห่อ และ กระเป๋านักเรียน ชนิดสะพายหลัง จำนวน 3 ห่อ ตรวจสอบบริเวณคอปกและตะเข็บชายเสื้อผ้าไหมมีลักษณะหนาและลื่นเหมือนมีวัตถุบางอย่างซุกซ่อนมาด้วย

จึงใช้มีดกรีดบริเวณคอปกเสื้อและตะเข็บชายเสื้อผ้าไหมเพื่อทำการตรวจสอบ พบด้านในมีถุงพลาสติกใสแบบเรียบแบนสีขาว กว้าง 6 เซนติเมตร ยาวประมาณ 120 เซนติเมตร ด้านในถุงพลาสติกบรรจุผงสีขาว และทำการตรวจสอบกระเป๋านักเรียนชนิดสะพายหลังพบว่าบริเวณสายสะพายมีความผิดปกติ จึงใช้มีดกรีดพบว่ามีถุงพลาสติกใสแบบเรียบแบนอยู่ด้านในของสายสะพายทั้งสองข้าง กว้าง 6 เซนติเมตร ยาวประมาณ 25 เซนติเมตร ด้านในบรรจุผงสีขาวเช่นเดียวกัน

เจ้าหน้าที่จึงวางสิ่งของไว้ตามเดิม และทำการดักซุ่มเพื่อรอคนมารับ กระทั่งเวลา 05.00 น. ก็ไม่มีใครเข้ามารับสิ่งของดังกล่าว จึงร่วมทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดมาไว้ที่กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2106 และทำการตรวจสอบโดยละเอียด


จากการตรวจสอบเสื้อผ้าไหม จำนวน 2 ถุง ถุงที่ 1 จำนวน 39 ตัว ถุงที่ 2 จำนวน 9 ตัว รวม 48 ตัว โดยการกรีดบริเวณคอปกเสื้อพบถุงพลาสติกใสแบบเรียบแบน ด้านในบรรจุผงสีขาว จำนวน 48 เส้น และขอบชายเสื้อ จำนวน 47 เส้น รวม 95 เส้น น้ำหนักรวม 5.886 กิโลกรัม

และจากการตรวจสอบกระเป๋าสะพายนักเรียนชนิดสะพายหลัง จำนวน 3 ถุง ถุงละ 28 ใบ รวม 84 ใบ โดยการกรีดบริเวณสายสะพายทั้ง 2 ข้าง พบมีถุงพลาสติกใสแบบเรียบแบน ด้านในบรรจุผงสีขาว ทั้ง 168 เส้น น้ำหนักรวม 6.274 กิโลกรัม

จากนั้นได้นำวัตถุสีขาวที่พบในเสื้อไหมและสายสะพายส่งตรวจที่ พฐ.จังหวัดบึงกาฬ จากการตรวจพิสูจน์ของ พฐ.จังหวัดบึงกาฬ พบว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 (โคเคนบริสุทธิ์) น้ำหนักรวม 12.160 กิโลกรัม จึงนำของกลางทั้งหมดส่งสถานีตำรวจภูธรปากคาดดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

รายงานเพิ่มเติมว่า โคเคนที่ตรวจยึดได้ครั้งนี้เป็นโคเคนชนิดบริสุทธิ์ 99% ซึ่งปกติของโคเคนที่ตรวจยึดได้ในเมืองไทยจะเป็นโคเคนชนิด 30% เท่านั้น ที่เหลือผสมเคตามีน ราคาขายถูกกว่าโคเคนบริสุทธิ์ 99% นิยมในกลุ่มผู้เสพไฮโซในเมืองไทย และถือเป็นครั้งแรกเช่นกันที่ยึดโคเคนได้ในพื้นที่ชายแดนภาคอีสานเป็นโคเคนเกรดส่งออก มีปลายทางที่ประเทศออสเตรเลีย และอิสราเอล


กำลังโหลดความคิดเห็น