ประจวบคีรีขันธ์ - จับต่างด้าวหนีเข้าเมือง 10 ราย เจอใบกระท่อมผงที่ทับสะแกส่อวุ่น ป้องกันจังหวัดสั่งสอบเจ้าหน้าที่ปกครอง หวั่นเป่าคดีทิ้ง อ้างมีใบอนุญาตทำงาน
วันนี้ (2 พ.ย.) จ่าเอกแก้ว คงวงศ์ ป้องกันจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สั่งการให้นายกิตติรัตน์ ส้มแป้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองประสานพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยยาง อ.ทับสะแก แก้ไขบันทึกจับกุมให้ตรงกับข้อเท็จจริง หลังป้องกันจังหวัดรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบ
เบื้องต้น โดยแนบรายงานบันทึกจับกุม แต่ต่อมาพบว่าข้อมูลในบันทึกมีความคลาดเคลื่อน หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารชุดจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ร่วมกันเข้าตรวจสอบฟาร์มปศุสัตว์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในสวนมะพร้าวพื้นที่หมู่ 10 ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก
เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสว่า อาจมีการลักลอบนำเข้าโคและกระบือเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน และให้ที่พักพิงแก่บุคคลต่างด้าวหลายราย แต่รายงานการตรวจค้นแจ้งว่า ขณะตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายโดยโค 73 ตัว และกระบือ 76 ตัว มีการซื้อขายภายในประเทศ ได้รับอนุญาตจากสำนักงานปศุสัตว์ พร้อมแจ้งว่าบุคคลต่างด้าว 2 ราย มีใบอนุญาตทำงาน
ขณะที่มีภาพถ่ายขณะการตรวจค้น พบว่า มีแรงงานต่างด้าว 7 ราย ใบกระท่อมผงจำนวนมาก เงินสดเกือบ 1 หมื่นบาท โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง อุปกรณ์ยังชีพ แต่ไม่ปรากฏข้อมูลในบันทึกรายงานการจับกุม พร้อมมีเจ้าหน้าที่บางหน่วยงานแจ้งให้ผู้สื่อข่าวห้ามใช้ภาพขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบในฟาร์มดังกล่าว
จ่าเอกแก้ว กล่าวว่า สำหรับบุคคลต่างด้าวระหว่างตรวจค้นหลบหนีไปได้ 3 ราย แต่จับกุมได้ 7 ราย ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าหลบหนีเข้าเมืองได้เดินทางเข้าประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติจากประเทศพม่า ใช้เวลานานกว่า 10 วัน ต้อนโค และกระบือเข้ามาจำหน่ายให้นายทุนผู้กว้างขวางรายหนึ่ง เนื่องจากโคและกระบือจากประเทศพม่ามีราคาซื้อขายต่ำกว่าราคาในประเทศ
จากนั้นได้นำเข้ามาพักที่ฟาร์มปศุสัตว์ดังกล่าว แต่ล่าสุดพบว่าที่โค และกระบือทั้งหมด ไม่ผ่านการตรวจโรค ซึ่งได้สั่งการให้ตรวจสอบการนำโคและกระบือทั้งหมดไปจำหน่ายให้นายทุน และให้นายกิตติรัตน์ ชี้แจงเหตุผลการให้ถ้อยคำต่อพนักงานสอบสวนที่มีความคลาดเคลื่อนว่ามีเจตนาอย่างไร หลังจากมีการระบุบ้านเลขที่ที่เข้าตรวจค้น ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ให้นโยบายจับกุมบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองในสถานการณ์โควิด-19 และการนำเข้าสิ่งของผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน
นายปรีดา สุขใจ นายอำเภอทับสะแก กล่าวว่า จากการตรวจสอบไม่พบโคและกระบือ แต่มีบุคคลต่างด้าวโดยไม่มีใบอนุญาตเข้าเมือง สำหรับใบกระท่อมผงอยู่ระหว่างการตรวจสอบของกลางที่พบทั้งหมด แต่ยอมรับว่ายังไม่สามารถระบุได้ว่าพื้นที่เกิดเหตุมีผู้ใดครอบครอง
