ราชบุรี - ชาวบ้านโป่งสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวง ร.๙ เมื่อครั้ง ประสบอัคคีภัยครั้งใหญ่ ในปี พ.ศ.2497 รวมตัวใจกลางเมือง แสดงพลังปกป้องสถาบัน ขณะที่กลุ่ม "ลูกบ้านโป่งไม่อินเผด็จการ" ได้เข้ายื่นหนังสือ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจขอเพื่อชุมนุมคู่ขนาน
ค่ำวานนี้ (27 ต.ค.) ได้มีกลุ่มเมืองคนงาม กลุ่มลูกพ่อหลวง ชมรมกีฬาจักรยานราชบุรี ภาคีเครือข่ายรักสถาบัน และประชาชน จำนวนกว่า 1,000 คน สวมใส่เสื้อสีเหลือง รวมตัวกันที่บริเวณหอนาฬิกา ใจกลางเมืองบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อร่วมกิจกรรมแสดงออกถึงความจงรักภักดีที่มีต่อสถาบันกษัตริย์ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบง่าย ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง และฝ่ายปกครองอำเภอบ้านโป่ง
โดยมีกลุ่มจิตอาสานำอาหาร และเครื่องดื่มมาแจกให้แก่ผู้เข้าร่วมครั้งนี้ ในส่วนของกิจกรรมได้มีการร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงชาติ จากนั้นได้มีการแสดงของเยาวชน และตัวแทนภาคประชาชนกล่าวสดุดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ โดยเฉพาะพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ เมื่อครั้งชาวตลาดบ้านโป่ง ประสบอัคคีภัยครั้งใหญ่ ในปี พ.ศ.2497 ซึ่งไฟได้เผาผลาญทรัพย์สินและบ้านเรือน ส่งผลให้ชาวบ้านมากกว่า 100 หลังคาเรือน แทบสิ้นเนื้อประดาตัว
เมื่อครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงทราบ จึงได้เสด็จมายัง อ.บ้านโป่ง เป็นการส่วนพระองค์เพื่อทรงเยี่ยมราษฎร พร้อมพระราชทานเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกของการเสด็จเยี่ยมราษฎร หลังจากพระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ สร้างความปลาบปลื้มยินดีและเป็นขวัญกำลังใจให้แก่พสกนิกรชาว อ.บ้านโป่ง ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงบ่ายของวันนี้ ได้มีกลุ่ม "ลูกบ้านโป่งไม่อินเผด็จการ" ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.สุทธิพงศ์ พงษ์ประภาอำไพร ผกก.สภ.บ้านโป่ง เพื่อขออนุญาตรวมตัวชุมนุมทางการเมือง ในช่วงเวลา 18.00-20.30 น. ณ บริเวณริมเขื่อนแม่น้ำแม่กลอง เขตเทศบาลเมือบ้านโป่ง แต่ไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากการยื่นหนังสือขออนุญาตนั้น ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ที่จะต้องยื่นก่อน จัดกิจกรรม 24 ชั่วโมง และหวั่นจะเกิดเหตุเผชิญหน้ากัน เนื่องจากทั้ง 2 กลุ่ม จัดกิจกรรมห่างกันเพียง 300 เมตรเท่านั้น
