กาญจนบุรี - ผู้ว่าฯ กาญจน์ ประกาศขยายเวลาระงับคำสั่งการใช้ช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักรของบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ ที่ด่านเจดีย์สามองค์ชายแดนไทย-พม่า หลังพบหญิงเพื่อนบ้านผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่
เย็นวันนี้ (20 ต.ค.) นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ได้ออกประกาศคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 4205/2563 เรื่อง ขยายเวลาการระงับการใช้ช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักรของบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ ณ จุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
ระบุว่า อนุสนธิคำสั่งจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 2675/2563 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2563 เรื่อง การผ่อนผันการใช้ช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักรเฉพาะเพื่อการขนส่งสินค้า ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมืองกาญจนบุรี และจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) ตำบลหนองลู อำภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และคำสั่งจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 3719/2563 ลงวันที่ 22 กันยายน พ.ศ.2563 เรื่อง การระงับการใช้ช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักรของบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ ณ จุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สมองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 3967/2563 ลงวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2563 เรื่อง ขยายเวลาการระงับการใช้ช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักรของบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ ณ จุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สมองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี นั้น
เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้แพร่ระบาดในสาธารณรัฐแห่งสหภาพม่าสูงขึ้นย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดชายแดนที่มีพื้นที่ติดต่อชายแดนของสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า และมีช่องทางผ่านแดนที่เป็นช่องทางธรรมชาติ เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
อาศัยอำนาจตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และข้อ 7 (1) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2559 เรื่อง หลักเกณฑ์และแนวทางการปฏิบัติในการพิจารณาการเปิด ระงับ หรือปิดจุดผ่านแดนประเภทต่างๆ จังหวัดกาญจนบุรี จึงมีคำสั่ง ดังนี้
1.ขยายเวลาการระงับการใช้ช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักรของบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ ณ จุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2563 จนถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563
2.เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรืผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรค 2 (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539
ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้โดยไม่มีเหตุอันสมควรจะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2563 จนถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 สั่ง ณ วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2563 ลงนามโดยนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประกาศฉบับดังกล่าวนั้นสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข ในพื้นที่กิ่งอำเภอพญาตองซู อ.จะอิเซ็กจี จ.กอกะเร็ก ประเทศพม่า ได้รายงานว่า พบผู้ต้องสงสัยเป็นหญิง อายุ 22 ปี อาศัยอยู่ในชุมชนตองไว ซ.4 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการนำตัวมารักษาที่โรงพยาบาลพญาตองซู
เนื่องจากพบว่าหญิงคนดังกล่าวมีอาการไข้คล้ายผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 และมีประวัติเดินทางไปเมืองย่างกุ้ง ซึ่งในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บตัวอย่างจากน้ำลายเพื่อส่งไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลกรุงย่างกุ้ง ต่อมาวันที่ 19 ต.ค.เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกรุงย่างกุ้ง ได้แจ้งผลและยืนยันว่าผู้ป่วยคนดังกล่าวติดเชื้อโควิด-19
ซึ่งเมื่อทราบผลการตรวจ ทางเจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยพญาตองซู (Phayathonezu rescue Team) จึงได้นำตัวผู้ป่วยรายนี้ส่งไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลจะอิเซ็กจี พร้อมทั้งส่งทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนโรค เพื่อติดตามค้นหาผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดอย่างละเอียดเพื่อติดตามนำตัวกลุ่มสัมผัสใกล้ชิดมากักตัวเพื่อเฝ้าติดตามอาการ ตามมาตรการควบคุมโรคเป็นเวลา 14 วัน