“ครูปรีชา” เศร้า! ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้อง “หมวดจรูญ” ข้อหายักยอกทรัพย์และรับของโจร

กาญจนบุรี - ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดี “หวย 30 ล้าน” ยืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้อง “หมวดจรูญ” ข้อหายักยอกทรัพย์และรับของโจร เนื่องจาก “ครูปรีชา” ผู้เป็นโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายจึงไม่มีอำนาจฟ้อง

หลังจากการสู้คดีกันนานนับปี เกี่ยวกับกรณีทุกข์สลากกินแบ่งรัฐบาล มูลค่า 30 ล้านบาท ที่ทั้ง 2 ฝ่าย คือ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจวัยเกษียณ และนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังษี ต่างอ้างว่าตนเองเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดนี้

เมื่อเวลา 08.40 น.วันนี้ (20 ต.ค.) ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ ฝ่ายจำเลย พร้อมด้วยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความส่วนตัว นางลาวัลย์ วิมูล ขายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความ พร้อมทีมทนาย และแฟนคลับจำนวนหนึ่งเดินทางมาให้กำลังใจ

ต่อมา เวลา 09.00 น. นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา โจทก์ ได้เดินทางมาถึงศาล ซึ่งนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัวไม่ได้เดินทางมาด้วย แต่ได้ส่งทีมทนายความเดินทางมาแทน ขณะเดียวกัน น.ส.รัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น น.ส.พัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช ได้เดินทางมาให้กำลังใจ ครูปรีชา ด้วยเช่นกัน ขาดเพียงนางปณัญชยา สุขผล หรือเจ๊เกียว พยานปากสำคัญเท่านั้น

ในครั้งนี้ ศาลจังหวัดกาญจนบุรีนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ที่บัลลังก์ 7 ซึ่งคาดว่าการอ่านคำพิพากษาต้องใช้เวลานานประมาณ 2-3 ชั่วโมง จึงจะทราบผลว่า จะยืนยกฟ้องตามศาลชั้นต้น หรือจะพิจารณาว่าคดีมีมูล

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.50 น. ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เนื่องจากศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายจึงไม่มีอำนาจฟ้อง ดังนั้น ศาลอุทธรณ์จึงเห็นด้วยกับศาลชั้นต้นพิพากษายืน คือ ยกฟ้องหมวดจรูญในข้อหายักยอกทรัพย์และรับของโจร เนื่องจากพยานหลักฐานที่โจทก์ยื่นมา ไม่ตรงกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าหมวดจรูญมีความผิด