เชียงใหม่ - รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำทีมตรวจติดตามความคืบหน้าการทวงคืนพื้นที่ป่าและจัดระเบียบรีสอร์ตที่พัก รุกป่า “ม่อนแจ่ม” พร้อมบังคับใช้กฎหมายลุยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรีสอร์ตหรูรุกป่ากว่า 5 ไร่ หลังไม่ยอมดำเนินการตามคำสั่ง ย้ำไม่ใช่การกลั่นแกล้ง
วันนี้ (19 ต.ค.) ที่ม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมป่าไม้ นำคณะรวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้, ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานเกี่ยวข้องกว่า 100 นาย ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม (ม่อนแจ่ม และพื้นที่ใกล้เคียง)
เบื้องต้นได้รับฟังการบรรยายสรุปติดตามผลการดำเนินงาน การควบคุมพื้นที่ และรายงานปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานแก้ไขปัญหา จากนั้นได้ตรวจติดตามการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ ในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของผู้ประกอบการ “ไร่นาย” ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม ซึ่งอยู่เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริม และถูกดำเนินคดียึดถือ ครอบครองพื้นที่ป่า โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เนื้อที่ 5 ไร่ 1 งาน 82 ตารางวา โดยการดำเนินการนี้มีขึ้นหลังจากมีการออกคำสั่งทางปกครองให้ผู้ครอบครองทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 10 ต.ค. 63 แต่ไม่มีการดำเนินการตามคำสั่ง ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องนำกำลังเข้าดำเนินการเองเพื่อฟื้นฟูสภาพพื้นที่ให้กลับเป็นป่าสมบูรณ์ดังเดิม
ทั้งนี้ พื้นที่ม่อนแจ่มซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวนั้น เป็นพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริม โดยเป็นพื้นที่ต้นน้ำและมีความอ่อนไหวทางระบบนิเวศสูง ที่ผ่านมากรมป่าไม้ได้ดำเนินการสำรวจพบว่ามีการปรับสภาพพื้นที่เปิดบริการที่พักรีสอร์ตทั้งสิ้น 113 ราย โดยบางรายเป็นนายทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ซื้อที่ดินต่อจากชาวบ้านที่ครอบครองใช้ประโยชน์อยู่เดิม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบและมีการดำเนินคดี
ที่ผ่านมามีการแจ้งเตือนกระทั่งผู้ประกอบการปิดกิจการไปแล้ว 26 ราย ขณะเดียวกันได้ตรวจยึดพื้นที่พร้อมดำเนินคดีต่อนายทุนที่ครอบครองพื้นที่ 30 ราย และได้บังคับใช้กฎหมายทำการรื้อถอนไปแล้ว 7 ราย สำหรับส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการพิจารณาจัดระเบียบของคณะกรรมการตามคำสั่งจังหวัดเชียงใหม่ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะได้ข้อยุติและดำเนินการเสร็จในช่วงประมาณเดือน พ.ย. 63 นี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของผู้ประกอบการในครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามกฎหมาย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าสงวนและมีการซื้อขายเปลี่ยนมือจากชาวบ้านที่ที่ครอบครองอยู่เดิมมาแล้ว 3 ครั้ง จนถึงผู้ครอบครองปัจจุบันที่เป็นนายทุนผู้ประกอบการที่ไม่มีเอกสารครอบครองอย่างถูกต้อง และไม่ได้ใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ จึงต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายเพื่อฟื้นฟูคืนสภาพป่าให้สมบูรณ์ดังเดิมเพราะเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำ ที่ผ่านมาได้ดำเนินการรื้อถอนไปแล้ว 7 ราย และกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนดำเนินการอีก 14 ราย
การดำเนินการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ม่อนแจ่มนั้น ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการใช้กฎหมายหรืออำนาจรังแกชาวบ้าน แต่เป็นไปเพื่อการฟื้นฟูสภาพป่าไม้ให้กลับคืนมา และป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้นมาสร้างความสูญเสีย รวมทั้งเพื่อให้การครอบครองใช้ประโยชน์เป็นอย่างถูกต้องเหมาะสม สำหรับการเปิดให้บริการที่พักในพื้นที่ม่อนแจ่มนั้น ย้ำว่าต้องยึดถือตามหลักกฎหมายเป็นหลัก