สระแก้ว - สถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งจากคลองพระสะทึง เข้าท่วมเขตตัวเมืองสระแก้ว เริ่มทรงตัวแล้ว แต่แขวงการทางยังคงแจ้งเตือนประชาชนใช้รถใช้ถนนบนทางหลวงหมายเลข 33 หรือถนนสุวรรณศร ระวังอันตรายจากน้ำท่วมขัง
วันนี้ (15 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งจากลำคลองพระสะทึง เข้าท่วมเขต อ.เมืองสระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่สุดท้ายที่จะรับน้ำจาก อ.วังสมบูรณ์ อ.วังน้ำเย็น และ อ.เขาฉกรรจ์ ก่อนไหลไปยัง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ว่าขณะนี้ระดับที่ท่วมขังเริ่มทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร และยังคงส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในหลายชุมชนใน ต.สระแก้ว ศาลาลำดวน และ ต.บ้านแก้งบางส่วน รวมถึงพื้นที่ชั้นในเขตเทศบาลเมืองสระแก้ว
ทำให้แขวงการทางสระแก้ว ต้องแจ้งเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนบนทางหลวงหมายเลข 33 หรือถนนสุวรรณศร ให้ใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากยังคงมีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 10 เซนติเมตร โดยจุดแรกที่บริเวณด้านหน้าบริษัทแลคตาซอย ที่ยังมีน้ำท่วมขังทั้งขาเข้าและขาออก รวมระยะทางประมาณ 600 เมตร ส่งผลให้การจราจรค่อนข้างติดขัด แต่รถทุกประเภทยังผ่านไปได้
ส่วนจุดที่ 2 คือ บริเวณสะพานข้ามคลองหันแดง ต.ศาลาลำดวน ที่มีน้ำท่วมขัง ระยะทางประมาณ 200 เมตร แต่ยังไม่ข้ามถนนสุวรรณศร เจ้าหน้าที่แขวงการทางสระแก้ว ได้นำกรวยยางและป้ายสัญญาณจราจรแจ้งเตือนประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนเพื่อป้องกันอันตราย และคาดว่าหาก จ.สระแก้ว ไม่มีฝนตกเพิ่มเติมระดับน้ำจะกลับสู่ภาวะปกติภายในไม่เกิน 1 สัปดาห์นี้
อย่างไรก็ดี ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสระแก้ว ได้รายงานสถานการณ์น้ำล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.วานนี้ว่า มีบ้านเรือนประชาชนในชุมชนติดริมคลองพระสะทึง ได้รับผลกระทบ 4 หมู่บ้าน และประชาชนใน ต. สระขวัญ จำนวน 5 หมู่บ้าน ต.ศาลาลำดวน ได้รับความเดือดร้อน 4 หมู่บ้าน และในเขตเทศบาลเมืองสระแก้ว 1 ชุมชน รวมทั้งสิ้นกว่า 100 หลังคาเรือน
โดยหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เริ่มลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย พร้อมแจกถุงยังชีพและข้าวสารอาหารแห้ง บรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว