รพ.พระนครศรีอยุธยา แสดงความเสียใจครอบครัวน้องต้นกล้า พร้อมทั้งตั้งทีมเพื่อหาข้อเท็จจริง

พระนครศรีอยุธยา - โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ออกมาแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์เด็ก 1 เดือนเสียชีวิต พร้อมตั้งทีมเพื่อหาข้อเท็จจริง หลังจากพ่อแม่ น้องออกมาร้องเรียนการฉีดยาของพยาบาล

จากกรณีช่วงค่ำวานนี้ (13 ต.ค.) น.ส.เดือนฉาย รอดหิรัญ อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 1/2 หมู่ 7 ต.ปากกราน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ติดต่อเข้าร้องเรียนสื่อมวลชน กล่าวทั้งน้ำตาด้วยความโศกเศร้า ว่า ตนเองมีสามีชื่อ นายสมจิตร พรมจันทร์ อายุ 30 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน คนสุดท้องคือ ด.ช.จิตรกร รอดหิรัญ หรือน้องต้นกล้า อายุ 1 เดือน 1 วัน เวลาประมาณ 10.00 น. น้องต้นกล้า บุตรชายของตนเองมีอาการท้องเสีย โดยมีอุจจาระปนเลือด จึงได้รีบพาบุตรชายมารักษาที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด หมอที่รักษาบอกว่าบุตรชายต้องนอนดูอาการที่โรงพยาบาล

ต่อมา เวลาประมาณ 17.00 น. ตนกำลังอุ้มให้นมบุตรชายอยู่ พยาบาลนำยาฆ่าเชื้อมาบอกว่าจะฉีดยาให้แก่บุตรชาย ปรากฏว่าหลังจากฉีดยาประมาณ 1 นาที เห็นว่าบุตรชายมีอาการช็อก ปากดำ ลำตัวเขียว แขนและขาห้อยลงทันที ตนตกใจและร้องไห้ว่าทำไมบุตรชายถึงมีอาการแบบนี้ จึงรีบแจ้งพยาบาลให้การช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นผ่านไปประมาณ 30 นาที ตนเองได้รับแจ้งจากหมอว่า บุตรชายมีอาการไม่ดีขึ้นให้แม่ทำใจเอาไว้ มีเพียง 20% ที่น้องจะรอด เพราะมีการปั๊มหัวใจน้องหลายครั้งจนร่างกายน้องเหมือนบอบช้ำ จากนั้นหมอก็แจ้งกับตนเองว่าจะต้องย้ายน้องไปที่ห้องไอซียู พอเวลา 19.00 น. ตนเองได้รับแจ้งจากหมอว่าบุตรชายมีอาการไม่ดี สำลักน้ำนมถึงแก่ความตาย ตนเอง สามี และญาติเสียใจเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ล่าสุด วันนี้ (14 ต.ค.) ที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา พญ.เพิ่มศิริ เลอมานุวรรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ได้เรียกแพทย์ พยาบาล ผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นร่วมประชุมเพื่อหาสาเหตุที่เกิดขึ้น โดยให้ผู้สื่อข่าวรออยู่ด้านนอกไม่ให้มีการบันทึกภาพแต่อย่างใด ซึ่งจะมีการออกมาชี้แจงหลังจากประชุมแล้วเสร็จอีกครั้ง

หลังจากใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง พญ.สิริมา ทิพย์รัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการพัฒนาระบบบริการและสนับสนุนบริการสุขภาพ ออกมาชี้แจงว่า ทางโรงพยาบาลขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางโรงพยาบาลดูแลผู้ป่วยทุกคนเป็นอย่างดีเป็นไปตามมาตรฐาน แต่เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น อันดับแรกเราก็ต้องขอแสดงความเสียใจ และจะรีบดำเนินหาข้อมูลเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเยียวยาคุณพ่อคุณแม่ของน้องที่เสียชีวิต และตั้งทีมเพื่อหาข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมส่งน้องไปชันสูตรเพื่อหาสาเหตุที่ถูกต้อง

ด้าน น.ส.เดือนฉาย แม่ของน้องต้นกล้า ตอนนี้เดินทางไปรับร่างน้องต้นกล้า ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต ซึ่งมีการผ่าชันสูตรในวันนี้ โดยผลที่ชัดเจนจะออกภายใน 30 วัน ซึ่งร่างน้องต้นกล้า จะนำมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดหันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา