ศูนย์ข่าวศรีราชา - สาวใหญ่ขี่รถจักรยานยนต์จอดท้ายรถ 22 ล้อบรรทุกทราย ถอยหลังหลบรถอีกคัน ทับทั้งคนทั้งรถจักรยานยนต์ติดคาล้อเสียชีวิตอนาถ ส่วนคนขับรถบรรทุกทรายตกใจล็อกรถหลบหนีไป ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจขอเข้ามอบตัว
เวลา 09.00 น.วันนี้ (12 ต.ค.) ศูนย์วิทยุกู้ภัยเพียวเยี่ยงไท้ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตจากสาเหตุรถบรรทุกทับ บริเวณบ่อทรายแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.5 ซอย 3 บ้านห้วยกุ่ม ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.อมรวัฒน์ ปานดี พนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา
ในที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 64-1117 กรุงเทพมหานคร ส่วนหางหมายเลขทะเบียน 64-7880 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ข้างทางเข้าบ่อทรายชิดซ้ายของถนน ส่วนใต้ท้องรถส่วนหางรถบรรทุก พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน คลข 400 ชลบุรี ล้มอยู่ใต้ท้องรถบรรทุก
ส่วนด้านหน้ารถบรรทุกพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง นอนคว่ำหน้า ศีรษะถูกทับแตกกระจาย มันสมองไหลเกลื่อนพื้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องนำผ้าดิบมาปิดบังเพื่อกันภาพที่ไม่น่าดู ทราบชื่อในภายหลังคือ นางจำลอง วัดสุวรรณ์ อายุ 48 ปี ที่อยู่ในบัตรอาศัยอยู่ที่ 68/1 หมู่ 3 ตำบลงิ้วงาม อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ส่วนคนขับรถบรรทุกทรายคันก่อเหตุทราบชื่อคือ นายสมศักดิ์ จันทร์ดาแก้ว อายุ 49 ปี ได้ล็อกรถหลบหนีไปแล้ว แต่ทราบจากเพื่อนร่วมงานว่า นายสมศักดิ์ ได้เดินทางไปแจ้งกับทางบริษัทแล้ว และทางบริษัทรถบรรทุกจะรับผิดชอบเกี่ยวกับกรณีนี้ทุกอย่าง ส่วนคนขับรถที่ยังตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในเร็วๆ นี้แน่นอน
จากการสอบถามนายบรรจง ธนสมบูรณ์ ชาวบ้านที่อยู่ในที่เกิดเหตุเปิดเผยว่า ถนนสายนี้เป็นทางเข้าบ่อทราย ถนนเป็นทางรถสวนกันได้ 2 คัน คาดว่ารถบรรทุกทรายคันก่อเหตุน่าจะขับเข้ามาในซอยแล้วไปสวนกับรถบรรทุกอีกคันที่สวนทางมา จึงจอดรถเพื่อที่ถอยหลบให้รถผ่านไปมาได้ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่คนจี่รถจักรยานยนต์มาจอดท้ายรถ โดยที่คนขับรถบรรทุกมองไม่เห็น จึงถอยทับทั้งคนทั้งรถ แล้วลากถอยไปประมาณ 20 เมตร จึงทราบว่ารถบรรทุกทับคนจึงลงมาดูพบว่ามีผู้เสียชีวิตจึงเกิดความตกใจล็อกรถก่อนหลบหนีไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ แล้วมอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง และเตรียมสอบสวนคนขับรถเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป