ชัยนาท - น้ำหลากมาแล้ว! เขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มการระบายน้ำ หลังแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง คาดระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 1 เมตร เตือนประชาชนพื้นที่ท้ายเขื่อน เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
วันนี้ (9 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนที่ตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยในวันนี้ ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณ 1,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ที่อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท ระดับน้ำเก็บกัก เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 16.50 เมตร (รทก) ซึ่งกรมชลประทาน ได้ผันน้ำเข้าระบบชลประทานสองฝั่งเจ้าพระยา รวมจำนวน 557 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และระบายน้ำออกท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 718 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเดิม 70 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ที่อำเภอสรรพยา น้ำสูงขึ้นจากเดิม 33 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 9.81 เมตร (รทก) แต่ยังไม่กระทบพื้นที่ริมตลิ่ง
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา กรมชลประทาน ได้มีหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำเจ้าลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 1 ไปยังผู้ว่าราชการในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกหนักในจังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดพิจิตร และจังหวัดนครสวรรค์ ส่งผลให้ระดับน้ำและปริมาณน้ำในแม่น้ำปิง แม่น้ำน่าน และแม่น้ำเจ้าพระยา เพิ่มสูงขึ้น
ซึ่งคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 จังหวัดนครสวรรค์ จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 1,300-1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ประมาณ 700-900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนจ้าพระยา ตั้งแต่จังหวัดชัยนาท ไปจนถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม โดยเฉพาะบริเวณตำบลกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา และตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมอีก 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร แต่จะยังไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่บริเวณตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และ แม่น้ำน้อย ด้านท้ายประตูระบายน้ำผักไห่ ขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ด้านนายสมบูรณ์ ศิริเวช ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ได้สั่งการให้อำเภอเมืองชัยนาท นายอำเภอวัดสิงห์ นายอำเภอสรรคบุรี นายอำเภอมโนรมย์ และนายอำเภอสรรพยา แจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้ง เกษตรกรที่ประกอบอาชีพประมง มีพื้นที่เพาะปลูก หรือเลี้ยงสัตว์บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา สถานประกอบการ ร้านค้า นักท่องเที่ยว ประชาชนที่สัญจรทางน้ำ ผู้ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้างงานโครงการ หรือเขื่อนป้องกันตลิ่งบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เตรียมการป้องกัน และเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
