เพชรบูรณ์ - จนท.ยังเข้าปิดวาล์วไม่ได้..แอมโมเนียโรงงานน้ำแข็งยั่งยืนเขาค้อรั่วตั้งแต่บ่ายวานนี้ยันเช้า ต้องใช้หุ่นยนต์ฉีดพ่นละอองน้ำเจือจางและปล่อยก๊าซไหลออกเองจนหมดถัง
ความคืบหน้ากรณีก๊าซแอมโมเนียโรงงานน้ำแข็งยั่งยืนเขาค้อ ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เกิดการรั่วไหลตั้งแต่บ่ายวานนี้ (7 ต.ค.) จนทำให้ทางอำเภอเขาค้อต้องสั่งระดมเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วนเข้าไปควบคุมสถานการณ์ และมีการอพยพราษฎรที่อยู่ในรัศมีที่จะได้รับผลกระทบไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัย พร้อมปิดถนนห้ามรถทุกชนิดผ่านจุดเกิดเหตุ พร้อมพยายามฉีดละอองน้ำให้ครอบคลุมพื้นที่บริเวณโรงงานน้ำแข็งเพื่อไม่ให้ก๊าซฟุ้งกระจาย
นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ได้เดินทางลงพื้นที่ติตตามสถานการณ์ในจุดเกิดเหตุช่วงเย็นวันเดียวกัน ได้รับฟังรายงานจากผู้เชี่ยวชาญสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ ถึงแนวทางและขั้นตอนที่จะส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปทำการสำรวจและปิดวาล์วก๊าซแอมโมเนียที่รั่วไหล แต่หากไม่สำเร็จก็จะปล่อยให้ก๊าซแอมโมเนียที่รั่วไหลจนหมดถังเก็บกักเอง
ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์กล่าวว่า ภาพรวมถือว่าเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว เพียงแต่จะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปทำการสำรวจจุดที่ก๊าซรั่วไหล แต่เบื้องต้นได้สอบถามทางพนักงานโรงงานน้ำแข็งซึ่งพบการรั่วไหลของก๊าซเป็นคนแรกและพยายามจะปิดวาล์วแต่ไม่สำเร็จ ซึ่งคาดการณ์ว่าท่อก๊าซคงจะเก่าทำให้เกิดการชำรุด แต่อย่างไรก็ตามต้องรอการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่อีกครั้งว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร
ด้านนายภาคภูมิ ภูมี นายอำเภอเขาค้อ ยังพยายามควบคุมสถานการณ์การรั่วไหลของสารแอมโมเนียดังกล่าวไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายเพิ่มเติม หลังจากเจ้าหน้าที่มีการตรวจสอบพบจุดรั่วไหลของก๊าซแอมโมเนีย โดยพบว่าอยู่ที่วาล์วเปิด-ปิดบริเวณถังแก๊ส ซึ่งไม่สามารถจะซ่อมแซมได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องนำรถดับเพลิงจำนวน 7 คันสับเปลี่ยนกันฉีดละอองน้ำบริเวณถังแก๊สที่รั่วไหลดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ได้ประสานขอรถหุ่นยนต์ฉีดน้ำไปยังสำนักงาน ปภ.ส่วนกลาง เข้าสนับสนุนฉีดพ่นละอองน้ำที่บริเวณโรงน้ำแข็งยั่งยืนเขาค้อตั้งแต่เวลาประมาณ 21.00 น.เศษที่ผ่านมา เพื่อลดความเข้มข้นและการฟุ้งกระจายของก๊าซแอมโมเนียที่ยังรั่วไหลอย่างต่อเนื่อง แต่จนถึงเช้าวันนี้ (8 ต.ค.) ก็ยังไม่สามารถปิดวาล์วถังแก๊สที่รั่วไหลได้ ต้องปล่อยให้ก๊าซหมดไปเอง ส่วนชาวบ้านที่อยู่ในรัศมีราว 500 เมตรมีการอพยพไปพักอาศัยชั่วคราวที่วัดแคมป์สน