กาญจนบุรี - ผู้ว่าฯ กาญจน์ ส่งหนังสือด่วนถึงนายก อบจ.เร่งพิจารณารับพื้นที่โรงงานกระดาษเก่ามาอยู่ในความดูแล ซึ่งเป็นภารกิจที่ตรงกับอำนาจหน้าที่ของ อบจ. ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 เพื่อนำมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ของประชาชนชาวกาญจนบุรี
จากกรณีที่กลุ่มสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ไม่รับหลักการร่างข้อบัญญัติเรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2564 ด้วยคะแนนเสียง 18 ต่อ 6 เสียง รวมทั้งไม่รับร่างระเบียบวาระที่ 6 ญัตติขอความเห็นชอบการได้รับมอบสิทธิเกี่ยวกับพัสดุหรือมอบให้เป็นผู้ดูแลพัสดุที่ราชพัสดุแปลงโรงงานกระดาษตามโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์โรงงานกระดาษไทยกาญจนบุรี เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ด้วยงบประมาณ 16 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมา เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่บริเวณหน้าโรงงานกระดาษไทยกาญจนบุรี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี รวม 20 คน นำโดย นายชูศักดิ์ แม้นทิม ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร่วมกันแถลงชี้แจงเหตุผลกรณีไม่รับหลักการร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2564 รวมทั้งญัตติขอความเห็นชอบการได้รับมอบสิทธิเกี่ยวกับพัสดุหรือมอบให้เป็นผู้ดูแลพัสดุที่ราชพัสดุแปลงโรงงานกระดาษ ตามโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์โรงงานกระดาษไทยกาญจนบุรี เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ด้วยงบประมาณ 16 ล้านบาท
หลังจากที่ ส.อบจ. มีมติไม่เห็นชอบการได้รับมอบสิทธิเกี่ยวกับพัสดุหรือมอบให้เป็นผู้ดูแลพัสดุที่ราชพัสดุแปลงโรงงานกระดาษ ทำให้ภาคเอกชน นักธุรกิจ และชาวกาญจนบุรี ที่ทราบข่าวรู้สึกเสียดาย และผิดหวัง พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักกับการทำหน้าที่ของกลุ่ม ส.อบจ.ที่ไม่รับร่างข้อบัญญัติงบประมาณดังกล่าว เพราะเมื่อมีมติไม่เห็นชอบ ก็ไม่รู้ว่าอนาคตโรงงานกระดาษที่ชาวกาญจนบุรี ได้ร่วมกันต่อสู้เพื่อให้กลับคืนมาเป็นสมบัติของชาวกาญจน์จะเป็นอย่างไรต่อไป
ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ต.ต.ที่ผ่านมา ผู้ราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีหนังสือด่วนที่สุดที่ กจ 0017.2/17315 เรื่อง ขอให้พิจารณารับพื้นที่โรงานกระดาษเก่ามาอยู่ในความดูแล เรียนถึง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี อ้างถึง 1.หนังสือจังหวัดกาญจนบุรี ที่ กค 0318.02/172 ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 และ 2.หนังสือจังหวัดกาจนบุรี ที่ กค 0318.02/501 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2563 เนื้อหาระบุว่า ตามที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยสำนักงานธนารักษ์พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ได้มีหนังสือถึงองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ให้พิจารณารับมอบพื้นที่โรงงานกระดาษเก่า โดยการรับเงื่อนไขการใช้ที่ราชพัสดุ แปลงโรงงานกระดาษ มาอยู่ในความดูแลและบริหารจัดการเพื่อจัดสร้างสวนสาธารณะ สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และแหล่งศึกษาเชิงประวัติศาสตร์เพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรี นั้น ขณะนี้เวลาได้ล่วงเลยมาระยะหนึ่งแล้ว จังหวัดกาญจนบุรีขอเรียนให้ทราบว่าการพิจารณารับพื้นที่ดังกล่าวมาไว้ในความดูแลเป็นภารกิจที่ตรงกับอำนาจหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540
จากการที่มีกระแสข่าวว่า การพิจารณารับพื้นที่โรงงานกระดาษเก่ามาอยู่ในความดูแลขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ต้องได้รับอนุญาตจากกรมศิลปากรเสียก่อนนั้น เป็นกระแสข่าวที่ไม่ถูกต้อง
จังหวัดขอเรียนอธิบายว่า พื้นที่บริเวณโรงานกระดาษเก่า กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ซึ่งการประกาศนั้นมีผลแต่เพียงหากมีการปลูกสร้าง รื้อถอน จะต้องนำแบบการดำเนินการไปขออนุญาตต่อกรมศิลปากรก่อนเท่านั้น มิได้หมายความว่ากรมศิลปากรเป็นเจ้าของที่ดินอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ
ซึ่งการที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรีจะรับพื้นที่ดังกล่าวมาดูแลเพื่อประโยชน์ของประชาชนนั้น จึงไม่เกี่ยวข้องกับการได้รับอนุญาตจากกรมศิลปากรแต่อย่างใด จึงเรียนมาเพื่อทราบและกรุณาชี้แจงให้สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและประชาชนทราบด้วย ลงนามโดย นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี
ขณะเดียวกัน นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้นำหนังสือด่วนที่สุดฉบับดังกล่าวมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก “Jirakiat Bhumisawasdi” พร้อมกับเขียนบทความสั้นๆ เอาไว้ว่า...ผมขอยืนยันตามนี้ครับ เรื่องนี้เป็นผลประโยชน์ของประชาชนครับ เจ็บคอ!
โดยหลังจากผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี โพสต์เฟซบุ๊กได้ไม่นาน ชาวจังหวัดกาญจนบุรี ได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ล้วนเป็นการให้กำลังใจผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กันทั้งสิ้น