ศรีสะเกษ - คืบหน้าแก๊งยาบ้ายิงสายลับล่อซื้อบาดเจ็บสาหัส ล่าสุดคุณยายศรีสะเกษวัย 64 ปี โวยตำรวจบุกจับคนร้ายทำบ้านที่เกิดเหตุโดนงัดและทรัพย์สินในบ้านพังเสียหายยับเยิน ยายยันไม่เคยรู้จักคนร้าย วอนผู้เกี่ยวข้องช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านให้ด่วน
วันนี้ (5 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจาก สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ใช้ให้สายลับมาติดต่อล่อซื้อยาบ้าที่บ้านเลขที่ 19 บ้านเหล่าโนนตูม ม.13 ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ แต่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่สายลับที่เข้าไปล่อซื้อยาบ้าจำนวน 3 นัด กระสุนปืนโดนเข้าที่ท้องทะลุออกด้านหลังทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้วเนื่องจากกระสุนปืนไม่ถูกอวัยวะสำคัญ จากนั้นคนร้ายได้อาศัยความมืดและความชำนาญเส้นทางวิ่งหลบหนีไป ล่าสุด พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับคนร้ายและจัดชุดไล่ล่าคนร้ายเพื่อจับกุมมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน
ส่วนผู้ต้องหาจำนวน 2 คนที่จับได้ในที่เกิดเหตุ คือ นายณัฐ (นามสมมติ) และ นายฟุ้ง (นามสมมติ) นั้น จากการสอบสวนแล้วพบว่านายณัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนร้าย จึงได้ตั้งข้อหาว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ส่วนนายฟุ้งได้ตั้งข้อหาว่าเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 19 บ้านเหล่าโนนตูม ม.13 ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าได้มีบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านใกล้เคียงพากันมาเยี่ยมให้กำลังใจ นางกม คำแอ่ง อายุ 64 ปี เจ้าของบ้านอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนางกมได้นำเพื่อนบ้านไปดูสภาพบ้านเรือนของตัวเองที่ถูกชายฉกรรจ์ลักษณะคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พากันเข้ามาบุกงัดพังบ้านเรือนของตนเองจนพังเสียหาย โดยฝาบ้านโดนงัดเอาไม้ออกไปหลายแผ่น เศษไม้มากองอยู่บนที่นอนภายในบ้าน ตู้เสื้อผ้ากระจกแตกเสียหายยับเยิน ข้าวของภายในบ้านถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย โดยนางกมยังไม่ได้จัดเก็บสิ่งของที่พังเสียหาย เนื่องจากว่าอายุมากแล้วอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้เพียงลำพังคนเดียว มีโรคประจำตัวหลายโรคทำให้สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง
นายสมยศ สิงห์ทรายขาว อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 13 ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อนบ้านที่มีบ้านอยู่ใกล้กัน เล่าว่า ขณะเกิดเหตุเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันที่ 4 ต.ค. ตนกำลังเลี้ยงหลานอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงร้องตะโกนเอะอะโวยวายดังลั่น และได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัดติดต่อกัน ตนจึงได้รีบเดินมาดูที่เกิดเหตุ พบว่ามีชายฉกรรจ์หลายคนแต่งกายคล้ายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถือปืนและไฟฉาย ได้ร้องตะโกนบอกตนว่าใครไม่เกี่ยวข้องให้เข้าบ้านไป
ตนจึงได้รีบเข้าไปในบ้านและให้หลานชายรีบวิ่งไปที่วัดบ้านโนนตูมที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร เพื่อไปตาม นางกม ที่ไปสวดมนต์อยู่ที่วัดให้รีบกลับมาดูบ้านของตนเองที่มีการยิงกัน โดยตนได้ยินเสียงการงัดบ้านเพื่อที่จะเข้าไปจับกุมนายณัฐ (นามสมมติ) ซึ่งเมาเหล้านอนหมดสติอยู่ในบ้านของนางกม โดยเจ้าหน้าที่ได้งัดบ้านของนางกมเข้าไปจับกุมตัวนายณัฐที่นอนหลับอยู่ แต่ว่าทำให้บ้านของนางกม พังเสียหายยับเยิน ตนจึงอยากขอวอนให้กลุ่มเจ้าหน้าที่ที่บุกเข้าไปพังบ้านของนางกมได้ให้การช่วยเหลือเร่งซ่อมแซมบ้านของนางกมให้อยู่ในสภาพเดิมโดยด่วนด้วย
นางกม คำแอ่ง อายุ 64 ปี เจ้าของบ้านที่พังเสียหาย กล่าวว่า ตนไม่เคยรู้จักกับคนร้ายที่ยิงสายลับของตำรวจแต่อย่างใด โดยก่อนตนไปสวดมนต์ที่วัดพบว่ามีเพียงกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้านประมาณ 4-5 คนพากันมานั่งดื่มเหล้าอยู่บริเวณแคร่หน้าบ้านของตน ไม่ทราบว่าใครเป็นคนร้าย ตนไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ว่าเมื่อมีการจับกุมคนร้ายแล้วทำให้บ้านเรือนของตนพังเสียหายก็ขอวอนส่วนราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ขอได้โปรดเข้ามาให้การช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนทรัพย์สินของตนที่พังเสียหายโดยด่วนด้วย เนื่องจากว่าตนมีฐานะยากจน ไม่มีที่นาทำกิน อาศัยอยู่ตัวคนเดียว สุขภาพไม่แข็งแรง ไม่สามารถที่จะซ่อมแซมบ้านที่ถูกทำให้พังเสียหายด้วยตนเองได้
นางอุไร สิงห์ทรายขาว อายุ 54 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ขอชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทุ่มเทในการจับกุมคนร้าย แต่ว่าเมื่อทำให้บ้านเรือนของนางกมพังเสียหาย จึงขอวอนให้เจ้าหน้าที่เข้ามารับผิดชอบซ่อมแซมบ้านเรือนของนางกมโดยด่วนด้วย เนื่องจากนางกมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แต่อย่างใด อีกทั้งนางกมฐานะยากจนมาก ไม่มีลูกหลานคอยเลี้ยงดู ไม่มีที่นาทำกิน ไม่ควรที่จะให้นางกมรับผลกระทบจากการจับกุมคนร้ายค้ายาบ้าในครั้งนี้