กาญจนบุรี - ก.ทรัพย์ฯหวังแก้ปัญหาคนกับช้างป่า เตรียมทุ่งงบสร้างแหล่งน้ำ-อาหาร ป้องกันช้างออกนอกพื้นที่ โดยจะทำในทุกผืนป่า เพื่อไม่ให้ช้างป่าออกมารบกวนประชาชนได้ในอนาคตทั่วประเทศ
วันนี้ (26 ก.ย.) ที่อาคารศูนย์ควบคุมมาตรฐานการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ชั้น 2 อุทยานแห่งชาติไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางมาที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปภาพรวมการดำเนินการ พร้อมมอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงาน และตรวจเยี่ยมและให้ขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค
โดยมี นายธัญญา เนติ ธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายสินธพ โมรีรัตน์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี นายสมเจตน์ จันทนา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค พร้อมคณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค ให้การต้อนรับ จากนั้นร่วมประชุมที่อาคารศูนย์ควบคุมมาตรฐานการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ชั้น 2 อุทยานแห่งชาติไทรโยค โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า อุทยานแห่งชาติไทรโยค ถือว่าเป็นหนึ่งในอุทยานที่มีความเก่าแก่และมีความสำคัญกับพี่น้องคนไทย และเป็นสถานที่ที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยในแต่ละช่วงวันหยุดยาวจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนจำนวนมาก จึงต้องมีการวางมาตรการที่จะหยุดพักอุทยานฯ ตามนโยบายที่ได้มอบให้กับกรมอุทยานฯเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ว่าปี 64 นั้นจะต้องมีช่วงหยุดพักอุทยานฯ เพื่อปรับปรุงอุทยานแห่งชาติทุกๆ แห่งว่าจะปิดกันในช่วงไหน และจะดำเนินการกันอย่างไร ที่สำคัญคือ การดูแลเรื่องของความสะอาดในอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวที่มาค้างแรมก่อนกลับก็ขอให้ช่วยกันนำขยะที่ท่านก่อขึ้นมากลับไปด้วย และโดยเฉพาะอย่านำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาดื่มในเขตอุทยานฯ เพราะมันผิดกฎหมาย และหากมึนเมาขึ้นมาอาจจะไปรบกวนนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นได้ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องดูแลกันให้ดี
สำหรับประเด็นต่อมา คือ ปัญหาเรื่องช้างป่า ซึ่งเราเข้าใจไม่ว่าจะเป็นพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวตะเข็บป่า บางครั้งอาจจะมีช้างออกมามากถึง 20-40 ตัว และทำความเสียหายให้ประชาชน เราเห็นใจพี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่ง จึงเป็นสาเหตุที่กรมอุทยานแห่งชาติขออนุมัติงบกลาง ซึ่งขณะนี้ได้งบมาแล้วในการใช้สำหรับสร้างแหล่งน้ำและแหล่งอาหารให้แก่ช้างป่า
“ถ้าเรามองในมุมกลับกัน หากพี่น้องประชาชนทุกคนไม่มีอาหารดำรงชีพแล้วเราจะไปไหน เราก็ต้องเข้าป่าไปหาอาหาร ในทางกลับกันช้างก็เป็นสิ่งมีชีวิตเช่นกันเมื่อช้างไม่มีอาหารกินในป่า ช้างก็ออกมาหากินนอกป่า การป้องกันด้วยการไปสร้างรั้วไฟฟ้า ไปสร้างคูน้ำ หรืออะไรก็แล้วแต่ต้องเรียนว่าช้างนั้นเป็นสัตว์ที่มีสติปัญญาสูง ช้างจะหาวิธีแก้ไขแล้วก็ออกมาหากินนอกป่าจนได้”
ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดคือจะทำอย่างไรให้ช้างกลับเข้าบ้าน โดยที่บ้านของช้างจะต้องมีความอุดมสมบูรณ์ทั้งอาหารและน้ำ ซึ่งขณะนี้กรมอุทยานฯ กำลังเร่งสร้างแหล่งน้ำแหล่งอาหารให้แก่ช้างป่า ไม่ใช่เพียงแค่ผืนป่าตะวันตกเท่านั้น แต่จะทำในทุกผืนป่า เพื่อไม่ให้ช้างป่าออกมารบกวนประชาชนได้ในอนาคต