ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - คืบหน้ารถทัวร์มรณะนำคณะ อสม.ร้อยเอ็ด พุ่งชนรถพ่วงกลางสี่แยกไฟแดงดับ 7 ศพ ที่โคราช ผู้ว่าฯโคราชสั่งตั้งศูนย์ช่วยเหลือ ด้านผู้รอดชีวิตเผยวินาทีตายหมู่โชเฟอร์ตีนผีซิ่งรถทัวร์มรณะมาด้วยความเร็วพุ่งชนรถพ่วงเสียงดังสนั่น ก่อนพยายามพาแฟนและหลานสาวหนีตายออกมาได้
วันนี้ (26 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีอุบัติเหตุหมู่รถทัวร์นำเที่ยว 2 ชั้น นำคณะ อสม.และประชาชนจังหวัดร้อยเอ็ด ไปเที่ยวศึกษาดูงานที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ชนกับรถพ่วง 22 ล้อ บรรทุกมันสำปะหลัง กลางแยกไฟแดงตัดใหม่ ถนนทางหลวงหมายเลข 304 สายนครราชสีมา-กบินทร์บุรี ต.ไชยมงคล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 7 ราย เป็นชาย 5 ราย หญิง 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 50 ราย เกิดเหตุเมื่อเวลา 03.44 น.วันนี้นั้น
ล่าสุด ช่วงบ่ายวันนี้ (26 ก.ย.) ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา และคณะกรรมการเหล่ากาชาด จ.นครราชสีมา เดินทางเข้าเยี่ยมดูอาการผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุดังกล่าว จำนวนกว่า 20 ราย ทั้งผู้สูงอายุ ผู้หญิง และเด็กเล็ก โดยเฉพาะผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสยังอยู่ในห้องฉุกเฉิน ส่วนห้องแยกสำหรับผู้ป่วยอุบัติเหตุที่รอดูอาการมีผู้ได้รับบาดเจ็บแขนหัก ขาหัก ศีรษะกระทบกระเทือน เป็นแผลถลอกที่อาการไม่รุนแรง มีบรรดาญาติที่เดินทางไปกับรถที่ล่วงหน้าไปก่อนต่างเดินทางกลับมาดูแลอย่างใกล้ชิด
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 7 ราย บาดเจ็บ 50 ราย จำนวนนี้สาหัส 5 ราย ผู้ที่มีอาการสาหัส อยู่ที่โรงพยาบาลเทพรัตน์ 2 ราย โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา 3 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บอื่นๆ กระจายอยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆ ในเขตพื้น อ.เมืองนครราชสีมา
จากการสอบถามผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่ในช่วงเกิดเหตุนั้นกำลังหลับ เดินทางออกมาจาก จ.ร้อยเอ็ด ตั้งแต่ช่วงเวลา 22.00 น. ผู้ที่เดินทางมาส่วนใหญ่เป็น อสม.และประชาชนในพื้นที่ อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด กำลังจะไปดูงานทัศนศึกษาที่พัทยา จ.ชลบุรี สำหรับการให้ความช่วยเหลือนั้น ทราบว่ารถทั้ง 2 คัน มีประกันคุ้มครองผู้โดยสารอยู่ ทาง คปภ.จังหวัด จะเร่งดำเนินการตรวจสอบสิทธิทั้งหมดให้แก่ผู้ประสบเหตุ ทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
นอกจากนี้ ทางจังหวัดได้ตั้งศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้แก่ญาติของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต คอยอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ พร้อมกันนี้ ยังได้จัดที่พักไว้ให้แก่ญาติ ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน ต.จอหอ ด้วย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ เป็นอุทาหรณ์ให้แก่ผู้ที่ต้องนำพาชีวิตบุคคลอื่นไปในสถานที่ต่างๆ จำเป็นต้องรับผิดชอบชีวิตบุคคลเหล่านั้นอย่างเต็มที่ ดังนั้น จำเป็นต้องเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมทุกครั้งที่ต้องปฏิบัติงาน ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดความสูญเสียขึ้น
ด้านผู้ได้รับบาดเจ็บเปิดเผยถึงวินาทีเฉียดตายว่า ก่อนเกิดเหตุขึ้นรู้สึกว่ารถคันดังกล่าววิ่งด้วยความเร็วสูง ส่วนตัวนั่งอยู่บนชั้น 2 และได้หลับไป แต่คนที่นั่งด้านชั้นล่างบอกว่า คนขับรถขับเร็วมาก ก่อนมาประสบเหตุชนกับรถบรรทุก ชนเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณ พอตั้งสติได้ตนก็พยายามหาตัวแฟน และหลานสาววัย 7 ขวบ ก่อนพากันออกมาจากนอกตัวรถ เนื่องจากเกรงว่ารถจะระเบิด แต่พบว่าตัวเองบาดเจ็บที่ขา และหน่วยกู้ภัยได้เข้ามาช่วยเหลือ
