ศูนย์ข่าวศรีราชา - อิทธิพล “โนอึล” ทำท้องทะเลเมืองตราด-จันทบุรีน่าห่วง คลื่นทะเลสูง 2-3 เมตร ขณะที่หาดอ่าวตาลคู่ ยังไม่ฟื้นหลังฝนหนักน้ำป่าไหลหลาก ทำร้านค้าริมชายหาดทรุด ถนนถูกคลื่นซัดหาย ประมงพื้นบ้านจันทบุรี ต้องหยุดออกเรือ
วันนี้ (19 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พายุ “โนอึล” ได้เริ่มส่งผลกระทบต่อสภาพท้องทะเลในพื้นที่ จ.ตราด และจันทบุรี อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสภาพความเสียหายของหาดอ่าวตาลคู่ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในเขตตัวเมืองตราด ที่ในวันนี้ยังไม่มีความปลอดภัยหลังช่วง 2 วันก่อนถูกพายุฝนฟ้าคะนองถล่มจนได้รับความเสียหาย และยังถูกน้ำป่าจากเขาไหลหลากซัดพื้นที่ชายหาดหายในบางส่วน
ล่าสุด อิทธิพลของพายุ “โนอึล” ยังส่งผลต่อสภาพคลื่นลมในทะเลที่เมืองตราด ที่ขณะนี้คลื่นบริเวณชายหาดอ่าวตาลคู่ สูงมากกว่า 2 เมตร และยังซัดถล่มชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการร้านค้าบริเวณชายหาดไม่สามารถเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ได้
โดยผู้ประกอบการหลายรายได้พากันเก็บโต๊ะและเก้าอี้มาวางไว้บนชายหาดป้องกันความเสียหาย
ขณะที่ส่วนราชการยังไม่สามารถเข้าฟื้นฟูสภาพอ่าวตาลคู่ได้และต้องรอให้พายุผ่านพ้นไปก่อน คาดว่าน่าจะดำเนินการได้ภายหลังวันที่ 20ก.ย.นี้ และในเบื้องต้น องค์การบริหารส่วนตำบลบางปิด ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าติดตั้งแผงเหล็กวางกั้นพื้นที่บริเวณถนนที่ถูกน้ำเซาะเสียหาย พร้อมป้องกันไม่ให้รถยนต์ขนาดใหญ่วิ่งผ่านเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายจากสภาพถนนทรุดตัว
ประมงพื้นบ้านจังหวัดจันทบุรี งดออกจับสัตว์น้ำ
ส่วนบรรยากาศบริเวณท่าเทียบเรือองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเปริด ม.2 ต.เกาะเปริด อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี พบว่า ในวันนี้เป็นไปอย่างเงียบเหงา โดยกลุ่มประมงพื้นบ้านต่างพากันนำเรือประมงขนาดเล็กและขนาดใหญ่เข้าจอดหลบคลื่นลมแรง หลังทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่งผลให้ชาวประมงต้องขาดรายได้จากการไม่สามารถนำเรือออกจับสัตว์น้ำในทะเลมาขาย
โดยผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติ่มว่า ชาวประมงพื้นบ้านใน จ.จันทบุรี ไม่สามารถนำเรือออกทำการประมงได้ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมาจากปัญหาคลื่นลมแรงจนหวั่นว่าจะไม่ปลอดภัย
นายทองสุน มณีโรจน์ ชาวประมงพื้นบ้านขนาดเล็ก บอกว่า ในช่วงนี้ตนเองและกลุ่มเพื่อนชาวประมงต้องนำเรือเข้าจอดหลบคลื่นลมมานานเกือบ 10 วันแล้ว ทำให้ต้องขาดรายได้วันละ 200-300 บาท