จันทบุรี - ยังเลื่อนลอย! โครงการจันทบุรีโมเดล นำแรงงานกัมพูชาช่วยทำงานในล้ง-สวนลำไย สุดท้ายรัฐบาลกัมพูชาไม่ปล่อยแรงงานล็อตแรกให้ไทย ซ้ำลอยแพแรงงานปักหลักนอนรอหน้าด่านแบบไม่รู้ชะตากรรม หวั่นยืดเยื้อถึงสิ้น ก.ย. สวนลำไยเสียหายหนักแน่
จากกรณีที่กระทรวงแรงงาน และ ศบค. ได้อนุญาตให้ จ.จันทบุรี เป็นจังหวัดนำร่องในการเปิดรับแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาทำงานเพื่อแก้ปัญหาความต้องการใช้แรงงานเก็บลำไยช่วยเกษตรกรไม่ให้ประสบปัญหาล้มละลาย
โดยอนุญาตให้แรงงานกัมพูชาชุดแรก จำนวน 500 ราย เดินทางเข้าไทยผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ในวันที่ 15 ก.ย.2563 เพื่อเป็นต้นแบบให้แก่จังหวัดชายแดนอื่นๆ ในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามโครงการจันทบุรีโมเดล
ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้เตรียมความพร้อมรับตัวแรงงานต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาใน จ.จันทบุรี พร้อมทำความเข้าใจผู้ประกอบการล้งผลไม้และชาวสวนเกี่ยวกับขั้นตอนการตรวจคัดกรองโรค ก่อนปล่อยให้ผู้ประกอบการนำตัวแรงงานเข้าสู่พื้นที่กักตัวเพื่อรอดูอาการเป็นเวลา 14 วัน
แต่สุดท้ายเมื่อถึงเวลาที่กำหนด ทางการกัมพูชากลับไม่ยอมปล่อยตัวแรงงานที่ต้องการเดินทางเข้ามาทำงานใน จ.จันทบุรี โดยอ้างว่าติดขัดด้านเอกสารเนื่องจาก จ.พระตะบอง ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับจังหวัดของกัมพูชาไม่สามารถอนุญาตออกหนังสือเดินทางให้แก่ประชาชนได้ แต่จะต้องเป็นการตัดสินใจของกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา พร้อมขอเลื่อนการดำเนินงานด้านเอกสารเป็นวันที่ 18-21 ก.ย.2563
จนทำให้แรงงานกัมพูชาจำนวนมากที่พากันเดินทางมารอข้ามประเทศบริเวณด้านหน้าจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา พากันปักหลักนอนรอและไม่ยอมเดินทางกลับบ้านเกิดนั้น
วันนี้ (18 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสังเกตการณ์บริเวณจุดผ่านแดนถาวร บ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี อีกครั้งโดยได้รับการเปิดเผยจาก ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.จันทบุรี ว่า ขณะนี้ไม่มีข้อสรุปว่าสุดท้ายแล้วโครงการจันทบุรีโมเดล จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ และต้องรอผลการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและกัมพูชา ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาต้องการความมั่นใจว่าเมื่อชาวกัมพูชาเข้ามาแล้วจะได้ทำงานจริงหรือไม่
ด้านแรงงานกัมพูชา จำนวน 500 คนที่เดินทางจากหมู่บ้านต่างๆ ใน จ.พระตะบอง ขณะนี้ก็ยังไม่ได้พากันเดินทางกลับบ้านและยังคงปักหลักรอที่บริเวณริมชายแดนฝั่งกัมพูชาเช่นเดิม โดยเชื่อมั่นว่าจะได้เข้ามาทำงานในไทยได้ในเร็วๆ นี้
"การที่แรงงานกัมพูชายังไม่สามารถเข้ามาทำงานเก็บลำไยใน อ.สอยดาว และ อ.โป่งน้ำร้อนได้ไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ย.นี้ จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อชาวสวนลำไยนับหมื่นครอบครัวใน 2 อำเภอทันที" นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.จันทบุรี กล่าว
