บุรีรัมย์ - หนุ่มวัย 28 ชาวนางรอง จ.บุรีรัมย์ พยายามผูกคอกินยาฆ่าตัวตายถึง 5 ครั้งแต่ไม่ตาย ล่าสุดใช้ผ้าขาวม้านอนรัดคอตัวเองต่อหน้ายายวัย 89 ป่วยติดเตียงตามองไม่เห็น ป้าเข้ามาเห็นนอนลิ้นจุกปากตัวแข็งรีบตะโกนบอกญาตินำส่ง รพ.ช่วยไว้ได้ทัน เตรียมส่งบำบัดรักษาอาการป่วยซึมเศร้า
วันนี้ (13 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านระนามพลวง ต.หนองโสน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ว่ามีชายคนหนึ่งพยายามฆ่าตัวตายถึง 5 ครั้งด้วยการผูกคอตัวเอง และกินยาหวังฆ่าตัวตาย แต่ไม่ตาย เพราะญาติมาเห็นและช่วยไว้ได้ทันทุกครั้ง โดยล่าสุดใช้ผ้าขาวม้านอนรัดคอตัวเองบนเสื่อต่อหน้ายายวัย 89 ปี ที่ป่วยติดเตียงและตามองไม่เห็นจึงไม่รู้ว่าหลานพยายามผูกคอตาย กระทั่งป้าเข้ามาเห็นนอนลิ้นจุกปากตัวแข็ง จึงรีบตะโกนบอกญาติให้มาช่วยพาส่งโรงพยาบาลได้ทันทำให้รอดชีวิตอีก จึงเชื่อว่าชะตายังไม่ถึงฆาต
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ พบว่านายเหน่ง (นามสมมติ) อายุ 28 ปี ชายหนุ่มที่พยายามผูกคอตาย ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนางรอง ซึ่งอาการปลอดภัยแล้วแต่ยังต้องรอแพทย์ประเมินอาการเพื่อส่งบำบัดรักษาอาการป่วยซึมเศร้าอย่างต่อเนื่องหรือไม่
นางใบ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 89 ปี ยายของนายเหน่ง เล่าให้ฟังว่า นายเหน่ง หลานชายมีอาการป่วยซึมเศร้ามาสักระยะแล้ว ปกติจะไปทำงานกับแม่ที่กรุงเทพฯ แต่ระยะหลังมีอาการผิดปกติบ่อยโดยเฉพาะการพยายามฆ่าตัวตาย จนลูกสาวซึ่งเป็นแม่ของน้องต้องพากลับมาไว้ที่บ้าน ตอนกลับมาอยู่บ้านหลานเคยกินยานอนหลับเกินขนาดเพื่อหวังจะฆ่าตัวตายแต่ญาติมาเห็นและพาส่งโรงพยาบาล และเมื่อวันที่ 11 ก.ย. เวลาประมาณ 11.00 น. ตนกำลังนั่งเคี้ยวหมากอยู่บนเตียงในบ้าน ไม่รู้ว่าหลานใช้ผ้าขาวม้ารัดคอตัวเองเพื่อหวังจะฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ เพราะตนมองไม่เห็นมาตั้งแต่ปี 2560 แล้ว มารู้อีกทีลูกสาวซึ่งเป็นป้าของหลานมาบอก
ขณะที่ นางสมพร (ขอสงวนนามสกุล) ป้าของนายเหน่ง เล่าว่า นายเหน่งมีอาการป่วยซึมเศร้ามาหลายปีแล้ว โดยตอนที่ทำงานอยู่กรุงเทพฯ กับแม่พยายามผูกคอตายถึง 3 ครั้ง จนแม่ต้องพากลับมาไว้ที่บ้านเพราะดูแลไม่ไหวเนื่องจากต้องทำงานด้วย แต่พอกลับมาอยู่บ้านก็ยังพยายามจะฆ่าตัวตายด้วยการกินยานอนหลับเกินขนาดอีก และล่าสุดได้ใช้ผ้าขาวม้านอนรัดคอตัวเองบนเสื่อใกล้กับเตียงที่ยายนอนป่วยติดเตียงอ แต่ยายมองไม่เห็นจึงไม่รู้ว่าหลานทำอะไร เคราะห์ดีที่ป้าเข้ามาเห็นจึงตะโกนให้ญาติมาพาส่งโรงพยาบาล
จากเหตุการณ์ดังกล่าวคิดว่าเกิดจากอาการป่วยของน้องเอง อาจจะควบคุมความคิดตัวเองไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าหลังจากนี้หลานจะทำแบบนี้อีกหรือไม่ อยากให้ทางโรงพยาบาลทำการรักษาให้ดีขึ้นจะได้ไม่คิดสั้นแบบนี้อีก เพราะทางญาติไม่รู้จะทำอย่างไร คงไม่มีเวลามาเฝ้าดูได้ตลอด ลำพังทำงานก็เหนื่อยอยู่แล้ว ส่วนที่หลานคิดฆ่าตัวตายถึง 5 ครั้งแต่ไม่ตาย น่าจะเป็นเพราะชะตายังไม่ถึงฆาต