xs
xsm
sm
md
lg

แก๊งกู้นอกระบบระบาดหนักช่วงโควิด-19 ชาวบ้านจอมทอง-ฮอดเจอทวงโหด

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - แก๊งเงินกู้นอกระบบเชียงใหม่ระบาดหนักช่วงโควิด-19 โปรยนามบัตรทั่วเมืองเชิญชวนคนร้อนเงินใช้บริการ พบชาวบ้านฮอด-จอมทองเดือดร้อนหนัก หลังหลงกลกู้ช่วง ศก.ดิ่งเหวเจอดอกเบี้ยร้อยละ 20 แถมทวงโหดรายวัน จนเครียดแทบฆ่าตัวตาย


สถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและการทำมาหากินของคนทั่วไปที่รายได้หดหาย แต่ธุรกิจเงินกู้นอกระบบกลับได้รับผลดี โดยฉวยโอกาสที่ผู้คนมีความจำเป็นต้องการใช้เงินทั้งจับจ่ายเลี้ยงดูครอบครัวและหมุนเวียนค้าขาย จึงสามารถชักจูงใจได้ง่ายขึ้นที่จะใช้บริการ แม้ว่าจะมีการคิดดอกเบี้ยสูง

ทั้งนี้ พบว่าแก๊งเงินกู้นอกระบบมีการโฆษณาเชิญชวนอย่างง่ายๆ และโจ๋งครึ่ม ด้วยการจัดทำแผ่นกระดาษลักษณะคล้ายนามบัตร นำไปทั้งโปรย, วาง หรือแปะติดตามแหล่งชุมชน และบ้านเรือนประชาชน ซึ่งในแผ่นกระดาษนั้นจะมีข้อความชักจูงใจต่างๆ เช่น เงินด่วน ทันใจ, อนุมัติง่าย, วงเงินสูง, สำหรับพ่อค้า แม่ค้า และเซียนพนัน ที่ขาดเงินทุนหมุนเวียน เป็นต้น พร้อมทั้งชื่อและเบอร์โทร.ติดต่อขอใช้บริการ ซึ่งพบว่ามีผู้จำยอมใช้บริการจำนวนมาก แม้จะทราบดีว่าดอกเบี้ยสูง เนื่องจากไม่สามารถเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือของรัฐได้ โดยปรากฏว่ามีประชาชนจำนวนมากที่ต้องได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักและกลายเป็นปัญหาซ้ำเติมชีวิตยิ่งขึ้นจากการใช้บริการเงินกู้นอกระบบ


ซึ่งในพื้นที่อำเภอจอมทอง และอำเภอฮอด เป็นพื้นที่หนึ่งที่แก๊งเงินกู้นอกระบบระบาดอย่างหนัก และมีชาวบ้านจำนวนมากกำลังได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตามตลาดนัดและตลาดสดที่ขาดเงินทุนหมุนเวียนเนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ค้าขายไม่ดีและขาดรายได้ จึงใช้บริการแก๊งเงินกู้นอกระบบ ซึ่งต่อมายิ่งกลายเป็นปัญหาซ้ำเติมความเดือดร้อนเพราะต้องชำระหนี้เป็นรายวันและดอกเบี้ยสูงกว่าร้อยละ 20 ต่อเดือน ทำให้ไม่สามารถหาเงินมาผ่อนชำระได้ จนต้องขาดจ่าย และถูกติดตามข่มขู่ทวงหนี้ทั้งเวลาออกไปตั้งร้านขายของและที่บ้านพัก จนได้เกิดความหวาดกลัวและอับอายอย่างมาก ส่วนนายทุนของแก๊งเงินกู้นอกระบบนั้น เบื้องต้นมีรายงานระบุว่ามีพื้นเพมาจากทางภาคกลาง สังเกตได้จากคนที่ทำหน้าที่นำเงินมาปล่อยกู้และเก็บหนี้จะพูดสำเนียงภาคกลาง รวมทั้งทะเบียนรถที่ใช้ในการตระเวนเก็บหนี้และข่มขู่ทวงเงิน

นางปราณี (นามสมมติ) แม่ค้าที่อำเภอฮอด เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก นอกจากค้าขายไม่ดีจนขาดทุนและแทบไม่มีเงินใช้จ่ายในบ้านแล้ว ยังต้องถูกข่มขู่ทวงหนี้จากแก๊งเงินกู้นอกระบบอีก จนหวาดกลัวและอับอายอย่างมาก ซึ่งเหตุการณ์เริ่มเมื่อหลายเดือนก่อน จากการที่ไม่สามารถออกไปขายของตามตลาดนัดได้เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และไปเห็นแผ่นกระดาษโฆษณาของแก๊งเงินกู้นอกระบบที่โปรยไว้ จึงตัดสินใจโทร.ไปขอกู้จำนวน 10,000 บาท จากนั้นได้มีคนนำเงินจำนวนดังกล่าวมามอบให้ที่บ้าน พร้อมขอสำเนาบัตรประชาชนและกระดาษ A4 เปล่าที่ลงลายมือชื่อเพื่อใช้เป็นหลักฐานการกู้เงิน โดยไม่มีการทำสัญญาใดๆ และมีเพียงข้อตกลงว่าต้องชำระเป็นรายวัน วันละ 500 บาท จำนวน 24 วัน


สำหรับการชำระเงินนั้น นางปราณีบอกว่า ทางแก๊งเงินกู้นอกระบบจะให้ทั้งคนมาเก็บเงินที่บ้าน และให้โอนเข้าบัญชีธนาคาร ซึ่งช่วงแรกตนเองยังพอสามารถหาเงินผ่อนชำระให้ได้ตามที่ตกลง และพอใช้หนี้หมดก็ขอกู้ใหม่ แต่ช่วงหลังเริ่มขาดส่งบ้างก็จะถูกทวงถามอย่างหนัก จนต้องใช้วิธีกู้ใหม่เพื่อใช้หนี้เก่าซ้ำไปเรื่อยๆ จนกระทั่งช่วงหลังไม่สามารถหาเงินมาจ่ายหนี้ได้ ก็เริ่มถูกทวงและข่มขู่หนักขึ้น ทั้งที่บ้านและเวลาออกไปขายของ รวมทั้งส่งข้อความมาด้วย ทำให้หวาดกลัวและอับอาย จนเครียดและคิดจะฆ่าตัวตาย แต่เป็นห่วงลูกที่ยังเล็กอยู่ ทั้งนี้ อยากร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยหาทางออกให้ เพราะมีคนที่เผชิญปัญหาเดียวกันนี้จำนวนมากแต่ไม่รู้จะหันไปพึ่งทางใด

ขณะที่นางสวาท (นามสมมติ) อาชีพค้าขาย ที่อำเภอจอมทอง บอกว่า เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับการข่มขู่ทวงหนี้มาตลอด แต่เนื่องจากช่วงสถานการณ์โควิด-19 รายได้ตกต่ำจนขาดเงินหมุนเวียนและใช้จ่ายในครอบครัว สุดท้ายจึงตัดสินใจยอมเสี่ยงใช้บริการเงินกู้นอกระบบ เพราะไม่สามารถใช้บริการมาตรการช่วยเหลือของรัฐได้ โดยกู้ยืมมาจำนวน 30,000 บาท ต้องจ่ายหนี้รายวัน วันละ 1,500 บาท จำนวน 24 วัน ซึ่งชำระจนหมด และต่อมาได้ใช้บริการอีกหลายครั้ง บางครั้งใช้วิธีการกู้ใหม่ใช้หนี้เก่าเพราะค้าขายไม่ได้ จนเกิดหนี้สะสมและเริ่มขาดชำระ ทำให้ถูกติดตามทวงหนี้อย่างหนัก ทั้งมีชายฉกรรจ์มาข่มขู่โวยวายหรือเร่งเครื่องรถยนต์เสียงดังที่บ้าน ทำให้ทุกคนในบ้านหวาดกลัวและอับอายไปด้วย ซึ่งที่จริงแล้วไม่มีเจตนาจะไม่จ่ายหนี้ แต่เป็นเพราะไม่มีเงินจริงๆ บางวันทั้งบ้านหาเงินมาได้และเหลือเงินใช้จ่ายเพียง 100 บาทเท่านั้น แทบจะไม่มีเงินให้ลูกไปโรงเรียน ซึ่งเท่าที่ทราบมีคนเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก หากเป็นไปได้อยากให้มีหน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยเหลือโดยด่วน ก่อนที่จะมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น