ศูนย์ข่าวศรีราชา - ท่องเที่ยวพัทยาไม่กระเตื้อง ผู้ประกอบการส่อหนีตายปิด-ขาย-เซ้งกิจการเพียบ เชื่อโควิด-19 ส่งผลกระทบยาว
วันนี้ (5 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการท่องเที่ยวในภาพรวมของเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ช่วงหยุดยาวชดเชยเทศกาลสงกรานต์ 2563 ว่า ยังคงเป็นไปอย่างเงียบแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะเบาบางลง ยอดผู้ป่วยและในพื้นที่คงตัวมานานหลายเดือน แต่นักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ก็ยังคงบางตาจนทำให้ผู้ประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยวจำนวนมากต้องปิดกิจการ เพราะไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายได้ไหว
และจากการพูดคุยกับผู้ประกอบการพบว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวในพื้นที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ทำให้ขณะนี้เจ้าของร้านและอาคารหลายแห่งต่างออกมาติดป้ายประกาศเซ้ง-ให้เช่า-ขาย
รวมถึงผู้ประกอบการสถานบันเทิงบาร์เบียร์ ผับเธค ร้านนวด โรงแรมและสปาที่เริ่มทยอยปิดตัว และบางรายได้พยายามที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบบริการเพื่อพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส และบางรายก็หันไปทำธุรกิจอื่นเพื่อความอยู่รอด
ขณะที่บางรายยังมืดแปดด้าน แต่ก็ยังคงกัดฟันสู้เพื่อพยุงธุรกิจและยังรอคอยความหวังที่แม้จะริบหรี่เต็มที
นายอู๊ด แก้วสุวรรณ เจ้าของบาร์เบียร์ย่านพัทยาสาย 2 เผยว่า ตนเองคร่ำหวอดอยู่ในวงการมานานกว่า 20 ปี ซึ่งธุรกิจบาร์ที่ทำอยู่ 3 แห่งขณะนี้ได้ปิดตัวไปหมดแล้ว เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ในส่วนของร้านก็ถือว่ายังโชคดีที่เจ้าของพื้นที่เข้าใจและยังไม่เก็บค่าเช่า
“แต่จากที่ได้ข่าวมาทราบว่าเจ้าของพื้นที่บางรายก็ยังเก็บค่าเช่าอยู่เหมือนเดิมจึงถือว่าเป็นปัญหาหนักสำหรับคนที่ไม่มีรายได้ ซึ่งจากการหารือร่วมกันกับผู้ประกอบการอื่นๆ พบว่าบางรายถึงขั้นต้องปิดตัวเป็นการถาวร บางรายปิดตัวแค่ชั่วคราวเพราะเชื่อว่าต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ”
นายอู๊ด ยังเผยอีกว่า อย่างไรก็ดีการยื่นมือเข้ามาให้การช่วยเหลือของรัฐบาล ทั้งเรื่องการยืดเวลาผ่อนชำระค่างวดรถและสินเชื่อธนาคารสามารถช่วยแบ่งเบาภาระได้ในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่ยังห่วงคือ พนักงาน เนื่องจากเมื่อไม่มีงาน ร้านไม่เปิด พนักงานเหล่านี้จะไม่มีรายได้ ซึ่งในเรื่องนี้หากภาครัฐให้ความสำคัญและมีมาตรการช่วยเหลือได้ก็คงจะดี
เช่นเดียวกับ นายวีระศักดิ์ เฉย่ง ผู้ประกอบการร้านขายของฝากบริเวณถนนวอล์กกิ้งสตรีท บอกว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการในย่านดังกล่าวซึ่งถือเป็นย่านท่องเที่ยวหลักของเมืองพัทยา ต่างพากันปิดตัวเกือบหมด เนื่องจากไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายได้ไหว แต่ส่วนตัวแล้วเซ้งร้านมาระยะยาวจนไม่สามารถทิ้งได้เนื่องจากได้ลงทุนตกแต่งเป็นเงินก้อนใหญ่ไปแล้ว
“สำหรับแผนการที่วางไว้ข้างหน้าคือการรอเวลาอย่างเดียว ซึ่งคาดว่า 3 เดือนต่อจากนี้จนถึงปีใหม่หากไม่มีอะไรดีขึ้นก็คงต้องตัวใครตัวมัน ส่วนตัวคิดว่าอยากให้หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวโปรโมตกิจกรรมต่างๆ ให้มาก และช่วยจัดกิจกรรมตลาดการค้าภายในพื้นที่เมืองพัทยาเพื่อดึงกลุ่มพ่อค้าแม่ขายในพื้นที่เข้ามาให้ดูคึกคัก”
เช่นเดียวกับ นางเปรมฤดี แซ่โค้ว ผู้ประกอบการร้านอาหารทะเลคิงส์ซีฟูด เผยว่า หากสุดท้ายยังไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในเมืองพัทยาก็คงจะต้องกลับไปสู่พื้นฐานเดิมคือ มีแค่ปัจจัย 4 ให้อยู่ได้ และตนเองเคยทดลองทำข้าวขายหน้าร้านมานานกว่า 2 เดือนก็ยังพอเหลือกำไรเป็นค่าแรงให้ลูกน้องได้วันละ 100-200 บาท แต่สุดท้ายหากไม่ไหวจริงๆ ก็คงต้องยอมแพ้เช่นกัน
