ประจวบคีรีขันธ์ - หน่วยงานด้านความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข ร่วมประชุมบูรณาการการป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน โดยกำหนดมาตรการปิดชายแดนเข้มข้น พร้อมกันนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้สั่งเลื่อนการจัดกีฬาชาวเขาที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ออกไปอย่างไม่มีกำหนด
วันนี้ (4 ก.ย.) ที่ห้องประชุมโรงเรียนอานันท์ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในการประชุม บูรณาการการป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน
โดยมี พ.อ.วุทธยา จันทมาศ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก พ.อ.กรกานต์ นาเวชวนิชกุล รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.ปฐม อุ่นอบ ผกก.ตชด.14 พ.ต.อ.นิรันดร ศิริสังข์ไชย รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.อ.ธีรยุทธฑ์ เส้งรอด รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ (ฉก.) จงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ นายมนตรี มานิชพงษ์ ปลัดอำเภอหัวหิน พร้อมด้วยผู้แทนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมมากกว่า 30 คน โดยในที่ประชุมเป็นการรับทราบสถานการณ์ทั้งนอกและในประเทศ รวมถึงได้หารือถึงแนวทางและมาตรการในการป้องกันและสกัดการแพร่ระบาด และเตรียมการรองรับหากมีการระบาดระลอกที่ 2 ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พ.อ.วุทธยา จันทมาศ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กล่าวว่า หลังจากที่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 2 ที่รัฐยะไข่ ประเทศพม่า พล.ท.ธรรมนูญ วิถี แม่ทัพภาคที่ 1/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 จึงได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดตามแนวชายแดน ด้วยการบูรณาการกำลังทุกภาคส่วน ทั้งนี้ กองกำลังสุรสีห์ โดย พล.ต.ฐกัด หลอดศิริ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ จึงได้สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง และฝ่ายปกครองในพื้นที่ วางมาตรการในการเฝ้าระวังเข้มข้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้าสู่ประเทศไทย ทั้งนี้ ได้เร่งดำเนินการวางลวดหนามกั้นเส้นทางเดินตามแนวชายแดน 8 อำเภอ
เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย พร้อมทั้งจัดชุดเจ้าหน้าที่สนธิกำลังลาดตระเวนในพื้นที่เสี่ยงให้มากขึ้นทั้งกลางวันกลางคืน โดยเตรียมเสนอของบประมาณติดตั้งกล้อง CCTV พร้อมระบบโซลาร์เซลล์ จำนวน 20 ชุด ติดตั้งในพื้นที่เสี่ยง เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการตรวจสอบการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายได้ ซึ่งมาตรการต่างๆ นี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวว่าพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยังมีความปลอดภัยจากโควิด-19
นายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขอยืนยันกับนักท่องเที่ยวว่า จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีความปลอดภัยและยังปลอดเชื้อโควิด-19 ซึ่งล่าสุดผลตรวจกลุ่มชาติพันธุ์เชื้อสายกะเหรี่ยงทั้ง 5 คนไม่พบเชื้อโควิด-19 แต่เพื่อความไม่ประมาท หน่วยงานความมั่นคง ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วางมาตรการเข้มข้นในการป้องกัน และสกัดกั้นการลักลอบผ่านตามแนวชายแดน
โดยบูรณาการกำลังกันและระดมเครื่องมือเครื่องใช้ที่ใช้การประกอบกำลัง โดยตรึงกำลังทั้งหมด และปิดจุดช่องทางธรรมชาติทุกช่อง 47 ช่องทาง ไม่ให้มีการเข้าออก ตามคำสั่งของ นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้มีคำสั่งระงับการเข้าออกตามแนวชายแดน ซึ่งไม่สามารถเดินทางผ่านแดนได้ทั้งช่องด่านสิงขร และช่องทางธรรมชาติ ถือว่าผิดกฎหมายทั้งสิ้น ทั้งนี้ ได้กำชับกำนันผู้ใหญ่บ้าน หากมีพบการลักลอบเข้าออกโดยที่ไม่มีการรายงานข้อมูลมีความผิด จะมีการตั้งกรรมการสอบสวนและดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป
ทั้งนี้ มาตรการต่างๆ เชื่อว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วประเทศได้มาเที่ยวหัวหิน ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ไม่ต้องกังวลใจ ขอให้มั่นใจว่า หัวหินยังมีความปลอดภัยจากโควิด-19 มานานกว่า 153 วัน แล้ว ในส่วนของการปิดโรงเรียน หรือหน่วยงานใดนั้นจะต้องรายงานข้อมูลให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทราบข้อมูลก่อน เนื่องจากไม่ใช่สถานการณ์ปกติ จากนั้นคณะกรรมการระดับจังหวัด จะตรวจสอบและพิจารณาความเหมาะสมก่อนประกาศปิดหน่วยงานนั้นๆ ในนามจังหวัดต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแตกตื่น ส่วนโรงเรียนห้วยไคร้ ต.บึงนคร และโรงเรียนอนันท์ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหินนั้น จะสามารถเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติในวันที่ 8 กันยายนนี้
ขณะเดียวกัน วันนี้ นายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มีคำสั่งให้เลื่อนการจัดแข่งกีฬาชาวเขา ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีออกไปอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 จะดีขึ้น เนื่องจากการจัดการแข่งขันกีฬาดังกล่าว มีกลุ่มชาติพันธุ์ทั้งในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาร่วมเป็นจำนวนมาก ประกอบกับการการจัดแข่งขันกีฬาจะต้องปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค.อย่างเคร่งครัด หากจัดแข่งขันกีฬาดังกล่าวในช่วงนี้ ซึ่งเป็นช่วงอ่อนไหวจะส่งผลเสียมากกว่า ซึ่งที่ประชุมมีมติตรงกัน