อุทัยธานี - คืบหน้าคดีสะเทือนขวัญ..ตำรวจพบที่แท้พี่ชายแท้ๆ ลงมือยิง-ตัดคอหนุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบ้านไร่ดับสยองกลางไร่ ก่อนพกลูกซอง-กระสุนอีกไม่ต่ำกว่า 30 นัดหนีเข้าป่า
ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญ นายอนุวัฒน์ กระแหน่ อายุ 23 ปี หนุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบ้านอีมาดอีทราย หมู่ 4 ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ถูกยิงด้วยปืนลูกซองจนเสียชีวิต ก่อนถูกตัดศีรษะจนขาดออกจากตัวกลางไร่ โดยคนร้ายได้นำศีรษะของผู้ตายไปโยนทิ้งไว้ไม่ไกลจากจุดที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไร่ ร่วมกับทีมสืบสวนสอบสวน ภ.อุทัยธานี ออกสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุสุดโหดเหี้ยมในครั้งนี้คือ นายอนุชา กระแหน่ อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ของผู้ตาย และได้ขอหมายศาลจังหวัดอุทัยธานีเพื่อจับกุมตัวแล้ว คาดว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีอยู่ที่ภูเขาสูงในพื้นที่ พร้อมกับอาวุธปืนลูกซองที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งน่าจะมีลูกกระสุนปืนอยู่ติดตัวอีกไม่ต่ำกว่า 30 นัด
ทีมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าพื้นที่ค้นหาเบาะแสเพิ่มเติม รวมทั้งประสานขอความร่วมมือกับญาติของนายอนุชาให้ร่วมเข้าพื้นที่ค้นหาเพื่อช่วยเกลี้ยกล่อมให้นายอนุชามอบตัวแต่ยังไม่เป็นผล โดยคาดว่านายอนุชาน่าจะหลบตัวอยู่ในป่าลึกบนเทือกเขาสูง ประกอบกับในพื้นที่มีฝนตกทำให้เข้าถึงตัวลำบาก และยังเสี่ยงต่อการต่อสู้ เพราะนายอนุชามีอาวุธปืนลูกซองยาวและมีกระสุนปืนอยู่ในถุงปุ๋ยที่แบกติดตัวไปด้วย
ส่วนศพของนายอนุวัฒน์ หลังจากญาตินำกลับมาจากแผนกนิติเวช โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทางครอบครัวได้ทำพิธีสวดเพียงคืนเดียว เมื่อ 29 ส.ค.ตามความเชื่อของชาวกะเหรี่ยง ก็ได้ทำพิธีฌาปนกิจอย่างเรียบง่ายที่วัดพุบอน ต.แก่นมะกรูด ในวันรุ่งขึ้น (30 ส.ค.) โดยมีครอบครัวและญาติๆ เข้าร่วมพิธี
ด้าน นายสมจิตร คุ้มปราง เจ้าหน้าที่ อปพร.ประจำหมู่บ้าน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของนายอนุชา ได้พาเข้าไปดูกระท่อมที่นายอนุชาอาศัยอยู่ และเป็นที่ก่อเหตุฆ่านายอนุวัฒน์ผู้เป็นน้องชายแท้ๆ ของตัวเอง พบว่ามีขวดสุราขาวที่นายอนุชาดื่มเป็นประจำอยู่เกลื่อนกระท่อม อีกทั้งยังมีปลอกลูกซองที่ยิงแล้ว 1 ปลอกวางอยู่ข้างกระท่อม และพบรอยเท้าซึ่งคาดว่าเป็นของนายอนุชา โดยคาดนายอนุชาน่าจะเดินหนีเข้าไปในลำเหมืองอีมาด ซึ่งเป็นลำเหมืองน้ำอยู่ไกลออกไปจากตัวกระท่อมประมาณ 1 กิโลเมตร
นายสมจิตรเปิดเผยว่า 2 วันก่อนเกิดเหตุตนได้มาเจอและดื่มสุราด้วย นายอนุชาได้บอกกับตนว่าจะฆ่าน้องทิ้ง ซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะไม่คิดว่านายอนุชาจะทำจริง เนื่องจากนายอนุวัฒน์ผู้ตายปกติแล้วก็นิสัยดีและเรียนเก่งด้วย โดยตอนนั้นตนเพียงแค่ถามกลับไปว่าจะฆ่าเพื่ออะไร แต่นายอนุชาก็ไม่ได้ตอบ แต่ก่อนหน้านั้นทั้งคู่ก็มีการทำร้ายร่างกายกัน เพราะผู้ตายเคยบ่นนายอนุชาว่าเอาแต่เมาไม่ค่อยทำงาน
ด้านนางกาญดา กระแหน่ อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของนายอนุชา เปิดเผยว่า นายอนุชามักจะเมาเป็นประจำ ผู้เป็นพ่อก็ผูกคอตายไปคนหนึ่งแล้ว แต่ส่วนดีก็มีอยู่ เพราะเวลาไม่เมาก็เป็นคนดีมาก แต่พอพักหลังนายอนุชาหันมาเสพยาอีก ซึ่งเป็นไปได้ก็อยากไปตามเขากลับมา แต่ก็ไปไม่ไหวเพราะยังตกใจในเหตุการณ์และรู้สึกเสียใจมาก รู้สึกเหนื่อยและท้อไปหมด เคยเห็นแต่ในข่าวแต่ไม่คิดว่าจะเจอกับครอบครัวตัวเอง ส่วนสาเหตุที่นายอนุชาก่อเหตุขึ้น อาจจะเกิดเพราะการเสพยาแล้วดื่มสุราเลยทำให้ไม่ได้สติก็เป็นได้
