ลำปาง - โรงเรียนดังลำปางเชิญคณะกรรมการสถานศึกษาหารือแนวทางบริหารโรงเรียน หลังกระแสเด็กรวมตัวแสดงออกทางการเมืองแรง ย้ำไม่ควรห้าม แต่ให้ถอดสีเสื้อพูดคุย-ใช้เป็นโอกาสสอนประชาธิปไตย-เผด็จการ
หลังจากนักเรียนหลายโรงเรียนรวมกลุ่มกันแสดงออกทางการเมือง จนทำให้มีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวางในขณะนี้ ล่าสุด นายนิรันดร หมื่นสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนลำปางกัลยาณี หนึ่งในโรงเรียนดังของลำปาง ได้เชิญคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังคำแนะนำ
นายพีระ มานะทัศน์ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมด้วยคณะกรรมการฯ และผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมและภายในสถานศึกษาหลายแห่ง เช่น การแสดงออกทางการเมืองของนักเรียน การผูกโบสีขาว การชูสามนิ้ว รวมถึงการเรียกร้องในประเด็นอื่นในโรงเรียน จนเกิดความขัดแย้งระหว่างครูกับนักเรียน แม้ว่าโรงเรียนลำปางกัลยาณีขณะนี้จะยังไม่มีความขัดแย้งดังกล่าวเกิดขึ้นชัดเจนเหมือนกับโรงเรียนบางแห่งที่กำลังกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวก็ตาม
คณะกรรมการฯ ได้ขอให้ทางโรงเรียนยึดหลักของยูนิเซฟเรื่องของการ Save the Children และทุกคนทั้งครู ผู้ปกครอง ก็ต้องสละสีเสื้อของตนเองก่อนที่จะพูดคุยกับนักเรียนและลูก ให้เปิดรับฟังความคิดเห็นของเด็ก รับฟังทุกเรื่องที่นักเรียนอึดอัด ยอมรับการเปลี่ยนแปลงในบางเรื่องที่อาจจะตามนักเรียนไม่ทัน จัดช่วงเวลาที่นักเรียนอยากทำกิจกรรมในโรงเรียนที่ไม่กระทบต่อการเรียนและคอยดูอยู่ห่างๆ ไม่ให้ออกนอกกรอบ หากเด็กต้องการข้อมูลครูต้องทำการบ้านในเรื่องนั้นๆ ให้ถ่องแท้และอธิบายให้เด็กฟังอย่างมีเหตุผล
ส่วนเรื่องการผูกโบสีขาว หรือการชู 3 นิ้ว คณะกรรมการฯ โรงเรียนลำปางกัลยาณีเห็นว่าไม่ต้องห้ามเด็ก เพราะไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ ต่อโรงเรียนหรือการเรียน ปล่อยให้เด็กได้แสดงออกอย่างเต็มที่ แต่อย่าให้เกินเลยและเกินขอบเขต ส่วนกรณีทรงผมนักเรียน สำหรับโรงเรียนลำปางกัลยาณีเป็นโรงเรียนระดับมัธยม มีทั้งหญิงและชาย ที่ผ่านมาทรงผมนักเรียนหญิงจะไม่ค่อยมีปัญหา เพราะทางโรงเรียนให้ไว้ได้ทั้งผมสั้น ผมยาว แต่ถ้าผมยาวให้รวบ-ผูกโบให้เรียบร้อย
กรณีนักเรียนชาย เดิมมัธยมต้นให้ตัดสั้นเกรียนรอบศีรษะ นักเรียนมัธยมปลายให้ตัดรองทรงสูง ซึ่งที่มีปัญหาคือมัธยมต้น จึงให้ทางโรงเรียนเปิดรับฟังความเห็นของนักเรียนว่าต้องการลักษณะไหนที่ไม่ขัดต่อกฎกระทรวงฯ และให้นำมาปรับแก้ระเบียบของโรงเรียนเพื่อลดความอึดอัดของนักเรียน เพราะบางคนอาจจะมีปัญหาเรื่องสภาพเส้นผม ศีรษะโดยธรรมชาติอยู่แล้ว และเพื่อให้เกิดบรรยากาศที่ดีภายในโรงเรียน ซึ่งอาจจะเป็นต้นแบบของการใช้ประชาธิปไตยภายในโรงเรียนให้แก่โรงเรียนอื่นๆ ที่กำลังมีปัญหาในขณะนี้ได้
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังได้ฝากให้ทางโรงเรียนใช้วิกฤตเป็นโอกาส เพราะก่อนหน้านี้เด็กระดับมัธยมแทบจะไม่ให้ความสนใจเรื่องการเมืองเลย แต่ขณะนี้เมื่อเด็กหันมาให้ความสนใจการเมืองก็ใช้โอกาสนี้ให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่นักเรียนเกี่ยวกับคำว่า “ประชาธิปไตย” และ “เผด็จการ” เพื่อให้เด็กได้มีองค์ความรู้ใช้ประกอบในการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ที่จะไม่ทำเพียงแค่ตามกระแสหรือถูกชักจูงไปในทางที่ผิดหรือเข้าใจผิดได้ และให้ความรัก ความเข้าใจแก่นักเรียน เหมือนครูสมัยก่อนที่ห่วงใยนักเรียน ดูแลนักเรียนอย่างจริงใจ นักเรียนจะรับรู้ได้ด้วยตัวเอง