ภาคกลาง - “ศรีสุวรรณ” เตรียมบุกช่วยชาวสังขละบุรี-ทองผาภูมินับพัน หลังกรมอุทยานฯ ประกาศเขตอุทยานฯ ทับพื้นที่นิคมสหกรณ์ 3 แสนไร่ พร้อมลงพื้นที่รับฟังข้อเท็จจริงในวันพรุ่งนี้ (18 ส.ค.)
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี และอำเภอทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เป็นจำนวนมากว่า ได้รับความเดือดร้อนและเสียหายอันเนื่องมาจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ออกประกาศให้อุทยานแห่งชาติเขาแหลมเป็นอุทยานฯ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2534 ซึ่งพื้นที่บางส่วนทับซ้อนกับที่ดินของนิคมสหกรณ์ทองผาภูมิ และสังขละบุรีกว่า 367,000 ไร่ โดยชาวบ้านได้ยึดถือครอบครอง และทำกินพื้นที่ดังกล่าวมาตั้งแต่มี พ.ร.ฎ.จัดตั้งนิคมสหกรณ์ท้องที่อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี พ.ศ.2518 แล้ว
ต่อมา เมื่อมีการประกาศตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ซึ่งมีพื้นที่กว่า 935,625 ไร่ ซึ่งบางส่วนของพื้นที่ดังกล่าวทับซ้อนกับพื้นที่ของนิคมสหกรณ์ฯ ทำให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เริ่มเข้ามาคุกคามอ้างสิทธิการครอบครองทับซ้อนที่ดินดังกล่าวของชาวบ้าน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบนับ 1,000 ราย โดยถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จับกุมดำเนินคดีไปเป็นจำนวนมาก ทั้งๆ ที่ชาวบ้านยึดถือครอบครอง และทำประโยชน์มาก่อนการประกาศเป็นอุทยานฯ แล้ว
ปัญหาการทับซ้อนของพื้นที่ดังกล่าว และเป็นปัญหาหมักหมมมานาน ประชาชนในพื้นที่ถูกคุกคามจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เป็นจำนวนมาก โดยอุทยานฯ อ้างว่าเป็นพื้นที่ของตัวเอง แต่ที่จริงแล้วนิคมสหกรณ์ฯ ได้จัดตั้ง และประกาศลงในราชกิจจานุเบกษามาตั้งแต่ปี 2518 ต่อมา ทางอุทยานฯ ก็ได้มาประกาศทับในปี 2534 นอกจากนี้ พื้นที่อุทยานฯ ยังไปทับซ้อนกับวัดลิเจียอีกด้วย
ชาวบ้านกล่าวว่า ได้มีกลุ่มเจ้าหน้าที่อุทยานระดับสูง นำกำลังเกือบ 200 นาย เข้าไปพร้อมอาวุธสงครามครบมือในวัดลิเจียซึ่งเป็นวัดเฉลิมพระเกียรติฯ ลำดับที่ 84 และอ้างว่า วัดลิเจียบุกรุกที่ของอุทยานฯ ทั้งที่ความเป็นจริงวัดลิเจียอยู่ในพื้นที่ของนิคมสหกรณ์ฯ มานานแล้ว เป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งกันอย่างมากระหว่างชาวบ้าน พระ และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ โดยที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรฯ กลับเพิกเฉยทั้งๆ ที่เป็นหน่วยงานที่ต้องให้การคุ้มครอง ดูแลชาวบ้านซึ่งเป็นสมาชิกนิคมสหกรณ์ จึงจะชอบ
ด้วยเหตุดังกล่าว ชาวบ้านในพื้นที่ อ.สังขละบุรี และ อ.ทองผาภูมิ เป็นจำนวนมากจึงได้ร้องขอให้สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และรับเรื่องร้องเรียนเพื่อนำความจริงมาเปิดเผยและช่วยชาวบ้านในทางกฎหมาย เพื่อช่วยปกป้องสิทธิของชาวบ้านตามกฎหมายต่อไป โดยสมาคมฯ จะเดินทางไปพบชาวบ้านที่มารอรับนับพันราย ในวันอังคารที่ 18 ส.ค.63 เวลา 09.30 น.เป็นต้นไป ณ หอประชุมนิคมสหกรณ์สังขละบุรี อ.สังขละบุรี