xs
xsm
sm
md
lg

รวบเครือข่ายค้ายาเสพติดส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน​ ยึดของกลางกว่า​ 10​ ล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สระแก้ว​ -​ ตำรวจเมืองสระแก้ว​ สนธิกำลังร่วมหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่สกัดจับขบวนการขนยาเสพติด​ส่งประเทศเพื่อนบ้าน​ รวบผู้ต้องหา​ 3​ ราย พร้อมของกลางยาไอซ์-เฮโรอีน​ ค่ากว่า​ 10​ ล้านบาท​ เร่งออกหมายจับตัวการใหญ่

วันนี้​ (15 ส.ค.)​ พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผู้กำกับการ​ สภ.คลองลึก พ.ต.ท.ภูมิสิษฐ์ ตั้งวิทย์เดชา รอง ผกก.ป.สภ.คลองลึก พ.ต.ท.ณัฐพล ชนะศุภกาญจน์ สวป.สภ.คลองลึก พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผู้บังคับชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง​ ได้นำตัว​ นายชลวิทย์ ศุขวิทย์ อายุ​ 31 ปี ชาว​ จ.พะเยา นายอดิศร จอมกระโทก อายุ 16 ปี และ​นางหลวย ศรีทอง อายุ 54 ปี ชาว​ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว​ 

พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 10 ถุง น้ำหนักรวมถุง ประมาณ 10.610 กิโลกรัม และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) น้ำหนักรวม​ 1.130 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว


ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว​ เผยว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นผลจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดจำนวนมากส่งไปยังประเทศกัมพูชา โดยใช้ จ.สระแก้ว​ เป็นทางผ่าน

จึงสั่งการให้​ พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผู้กำกับการ​ สภ.คลองลึก ประสานไปยัง พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 และหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนสระแก้ว ร่วมกันตั้งด่านตรวจค้นบนถนนสุวรรณศร บริเวณสามแยกไฟแดงบ้านโคกสะแบง ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 1 กิโลเมตร


กระทั่งพบรถยนต์ต้องสงสัยจึงเรียกทำการตรวจค้นจนพบยาเสพติดจำนวนดังกล่าว และควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มาทำการสอบสวนขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการจนรู้ตัวผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่​ และล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างรอการออกหมายจับผู้เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย​ต่อไป

พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ยังเผยอีกว่าเนื่องจาก​ จ.สระแก้ว​ มีพื้นที่ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้านเป็นระยะทางยาวถึง 165 กิโลเมตร​ พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 จึงให้ความสำคัญในเรื่องการป้องกันและปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายและยาเสพติด จึงสั่งการให้ทุกสถานีตำรวจที่มีพื้นที่ติดชายแดนเพิ่มมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น

พร้อมแสวงหาความร่วมมือกับภาคเอกชนและประชาชนในพื้นที่ให้ร่วมเฝ้าระวังสิ่งผิดกฎหมาย​ เพื่อนำตัวผู้ที่อยู่ในขบวนการผิดกฎหมายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว






กำลังโหลดความคิดเห็น