บุรีรัมย์ - 2 ผัวเมียชาว อ.หนองหงส์ อึ้ง! ซื้อที่ปลูกบ้านอยู่ 15 ปี จู่ๆ ถูกทนายฟ้องไล่ ทั้งเรียกค่าเสียหายกว่า 400,000 บาท 5 ชีวิตเศร้าจำใจต้องย้ายออก เผยจ่ายเงินค่าให้เจ้าของที่แล้ว ทำแค่สัญญาซื้อขาย ยังไม่โอนกรรมสิทธิ์ วอนผู้รู้กฎหมายช่วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ว่า มีครอบครัวหนึ่ง 5 ชีวิต ต้องกลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัยและจะต้องจ่ายค่าเสียหายอีกเกือบ 400,000 บาท ทั้งที่เป็นที่ดินและบ้านของตัวเองที่ซื้อมากับมือ
จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 8 ต.หนองไชยศรี อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านของนางวงเดือน ลุนสำโรง อายุ 48 ปี พบว่า กำลังรื้อถอนนำวัสดุโครงสร้างของบ้านออกจากพื้นที่ ทั้งนี้ นางวงเดือน ยังได้นำหลักฐานเป็นโฉนดที่ดินเนื้อที่ 1 งาน 23 ตารางวา ระบุชื่อชายคนหนึ่งในโฉนดเจ้าของที่ดิน
นางวงเดือน กล่าวว่า ตนซื้อที่ดินดังกล่าวมาจากนายปรีชา เจ้าของเดิม จำนวน 1 แปลง จากทั้งหมด 7 แปลงที่แบ่งล็อกขาย โดยทำสัญญาซื้อขายกันไว้เมื่อปี 2547 ในราคา 20,000 บาท และจ่ายเงินให้ครบทั้งหมดแล้ว หลังจากซื้อได้ประมาณ 1 ปี เจ้าของเดิมได้นำโฉนดมาให้ หลังแบ่งแยกเป็นแปลงออกเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับบอกว่า ไปโอนตอนไหนก็ได้ เพราะโฉนดอยู่กับนายปรีชา
ทำให้นางวงเดือน กับสามีใจเย็น หาเงินได้ค่อยๆ สร้างบ้านทีละนิด ต่อมา ลูกสาวซึ่งไปทำงานต่างจังหวัดแยกทางกับสามี แล้วนำลูกมาให้เลี้ยงอีก 3 คน อายุ 5 ขวบ 4 ขวบ และ 1 ขวบครึ่ง จากนั้นเมื่อปี 2560 ตนพอจะมีเงินค่าโอนที่ดินแล้ว จึงบอกนายปรีชา เจ้าของที่ดินเดิมไปสำนักงานที่ดิน อ.หนองหงส์ เพื่อจะโอนที่ดินให้แล้วเสร็จ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ที่ดินแจ้งว่า ที่ดินถูกอายัดแล้ว ไม่สามารถโอนได้ พอสอบถามนายปรีชา เจ้าของที่เดิมก็บอกว่าไม่รู้เรื่อง
กระทั่งเดือนเมษายน 2561 มีหมายจากสำนักงานทนายความแห่งหนึ่ง โดยระบุข้อความว่า ให้ออกจากพื้นที่ภายใน 7 วัน ตนยอมรับว่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้ครอบครัวรวม 5 ชีวิตได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ต้องไปอาศัยอยู่กับญาติ ซึ่งเป็นบ้านหลังเล็กเช่นกัน อยากจะให้ผู้รู้กฎหมายแนะนำหาแนวทางช่วยเหลือด้วย เพราะอยากได้บ้านคืน
ขณะที่ น.ส.ชัตริญา แก้วสลับสี อายุ 35 ปี น้องสาว บอกว่า หลังจากอ่านเอกสารของศาลจังหวัดนางรอง ระบุเนื้อหาจะต้องชดใช้ให้ทนายความคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ประมูลซื้อที่ดินจากสำนักงานบังคับคดีมา โดยเรียกค่าเสียหายที่มาอยู่ในที่ดินคนอื่นเป็นเงินกว่า 70,000 บาท และเป็นค่าล่วงละเมิดอีกกว่า 300,000 บาท (ไม่รวมดอกเบี้ยอีก 7.5 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่วันฟ้อง) ตนเคยโทรศัพท์ประสานทนายคนนี้ ว่าถ้าจะขอซื้อคืนจะขายเท่าไหร่ ได้รับคำตอบจากทนายว่า “ต้องจ่ายค่าเสียหายมาทั้งหมดก่อนคือประมาณ 400,000 บาท แล้วค่อยมาว่ากันเรื่องซื้อคืน”
จากข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เจ้าของที่ดินเดิมไปกู้เงินนอกระบบ แล้วถูกฟ้องจนมีการสืบทรัพย์ และพบว่ามีที่ดินแปลงนี้ จึงขายทอดตลาดตามกระบวนการ ก่อนทนายจะมาประมูลได้ แต่สิ่งที่น่าแปลกใจคือทำไมทนายต้องฟ้องเรียกค่าเสียหายกับคนจนที่ไม่มีแม้เงินซื้อนมให้หลาน