ผู้จัดการออนไลน์ - ประชุมติดตามรับฟังผลกระทบกีฬาเนื่องจากโควิด-19 “บัวขาว” ครวญพิษโควิด-19 กระทบนักกีฬาสุดลำบาก เหตุไม่มีการแข่งขัน ไม่มีรายได้ ด้านอนุกรรมาธิการกีฬา พร้อมชงรัฐบาล ปลดล็อกทุกชนิดกีฬาแน่
วันนี้ (6 ส.ค.) ที่ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ (สผ.) 305 ชั้น 3 อาคารรัฐสภา (เกียกกาย) มีการประชุมอนุคณะกรรมาธิการติดตามผลกระทบทางด้านการกีฬาเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สภาผู้แทนราษฎร โดย ส.ส.ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา ประธานคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร มอบหมายให้ ส.ส.ดร.เอกการ ซื่อทรงธรรม ประธานอนุคณะกรรมาธิการติดตามผลกระทบทางด้านการกีฬาฯ ดำเนินการประชุม ครั้งที่ 2
มีนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ที่ปรึกษาประจำคณะอนุกรรรมาธิการ และมีตัวแทนในกลุ่มผู้ประกอบการ เช่น นักกีฬามวย สมาคมการค้าเครื่องกีฬา สหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้ประกอบการด้านฟิตเนส และ ร.ต.สมบัติ บัญชาเมฆ ซูเปอร์สตาร์มวยไทย หัวหน้าค่ายมวยบัญชาเมฆ เข้าอธิบายถึงผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจด้านการกีฬา
การประชุมรับฟังครั้งนี้ได้สะท้อนถึงความต้องการให้รัฐบาลปลดล็อกทุกชนิดกีฬาให้สามารถดำเนินการจัดการแข่งขันได้อย่างเต็มที่ โดยยกตัวอย่างการปลดล็อกให้มีการท่องเที่ยวหรือตามสถานบันเทิง แต่คำถามหลักคือทำไมรัฐบาลถึงไม่ยอมปลดล็อกเรื่องของการกีฬา นักกีฬาทุกชนิดได้รับผลกระทบ เพราะไม่มีการจัดการแข่งขัน โดยเฉพาะมวยไทย
ทั้งนี้ ร.ต.สมบัติ บัญชาเมฆ หรือบัวชาว บัญชาเมฆ ได้ใช้คำพูดว่า “ผมไม่มีอำนาจที่จะทำอะไรได้ แต่หวังที่จะให้รัฐบาลให้การช่วยเหลือ” ทั้งยังรวมไปถึงปัญหาการช่วยเหลือนักกีฬา ระหว่างการกีฬาแห่งประเทศไทยกับกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่มีงบประมาณในกองทุนสูงกว่า 4,200 ล้านบาท
ร.ต.สมบัติ บัญชาเมฆ หรือบัวขาว บัญชาเมฆ กล่าวว่า ผลกระทบต่อนักกีฬามวยไทยคงไม่ต้องพูดถึง เพราะวันนี้ยังไม่มีการจัดการแข่งขัน แต่นักกีฬามวยไทยมีค่าใช้จ่ายสำคัญคือ ต้องมีที่ซ้อม ต้องกิน และต้องมีที่นอน เมื่อไม่มีการแข่งขันจึงไม่มีสปอนเซอร์ วิธีการแก้ไขปัญหายอมรับว่าในค่ายได้อยู่กันอย่างพอเพียง แต่ทุกวันนี้ลำบากและยากที่จะต้องแบกภาระ สิ่งที่หวังคือการช่วยเหลือหรือสงเคราะห์ให้แต่ละค่าย
“ผมยอมรับว่า ผมไม่มีอำนาจจะทำอะไรได้ แต่หวังจะให้รัฐบาลช่วยเหลือ เพราะวงการกีฬาโดยเฉพาะมวยไทยได้สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ เวลาที่ไปชกกับต่างชาติ คนไทยที่เป็นนักมวยไทยจะได้รับเกียรติสูงสุด แต่ในเมื่อไม่มีการแข่งขันเช่นนี้ลำบากมาก จึงหวังที่จะให้กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้เข้ามาช่วยเหลือด่วน” บัวขาว กล่าว
ขณะที่ ดร.เอกการ ซื่อทรงธรรม ประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ กล่าวว่า ปัญหาที่ได้รับทราบจากผู้ประกอบการและเจ้าของค่ายมวยรวมถึงนักกีฬาในครั้งนี้ ถือเป็นประโยชน์และมีแนวทางที่ชัดเจนว่า อนุกรรมาธิการฯ ชุดนี้ ซึ่งได้รับมอบหมายจากประธานคณะกรรมาธิการกีฬาสภาผู้แทนราษฎร ให้มาติดตามปัญหา จะนำเสนอปัญหาทั้งหมดไปยังคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร โดยจะขอให้ปลดล็อกการแข่งขันทุกชนิดกีฬา ให้มีการจัดการแข่งขันขึ้นโดยเร็ว เช่นเดียวกับที่รัฐบาลได้เปิดการท่องเที่ยวหรือสถานบันเทิงไปแล้ว เพื่อให้นักกีฬาหรือผู้มีอาชีพกีฬาได้ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
“ส่วนคำถามที่ว่า ปัญหาของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กับ กกท. ที่ยังไม่ได้ช่วยเหลือนักกีฬานั้น อนุกรรมาธิการฯ ได้ศึกษากฎหมายและเห็นว่า เงินกองทุนนั้น สามารถจ่ายให้แก่นักกีฬาได้ทันที ซึ่งทราบมาว่าในอนาคตก็จะมีการช่วยเหลือ แต่จะต้องรอผลการประชุมจากคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 19 สิงหาคม 2563 นี้ก่อน ว่าจะช่วยเหลือจริงหรือไม่” ดร.เอกการ กล่าว
ตนยืนยันว่าโดยการนำของ ส.ส.ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา ประธานคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร มีความตั้งใจจริงที่จะช่วยเหลือนักกีฬาที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างเต็มที่ ซึ่งหวังว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้นและเห็นผลในเร็ววันนี้
รายงานแจ้งว่า หลังจากประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯ นั้น ดร.เอกการ ซื่อทรงธรรม ประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ พร้อมคณะ และบัวขาว บัญชาเมฆ ได้เดินลงไปแถลงข่าวยืนยันที่จะนำมติที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯ ที่เสนอให้มีการปลดล็อกทุกชนิดกีฬา เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอต่อรัฐบาลให้พิจารณาทำการปลดล็อกทุกชนิดกีฬาต่อไป