กาญจนบุรี - สลด!! เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวน อช.เขาแหลม ว่ายน้ำข้ามฝั่งนำเชือกไปผูกให้เพื่อนข้ามสะดวก สุดท้ายเจอกระแสน้ำวนดูดร่างร่างจมดับต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน ส่วนปลัด ทส.อธิบดี กรม อช.สั่งดูแลครอบครัวเต็มที่
วันนี้ (6 ส.ค.) นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า เวลาประมาณ 22.00 น.ของคืนวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตกว่า เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ถูกน้ำป่าพัดร่างจมน้ำเสียชีวิต ขณะกำลังข้ามลำห้วยรันตี บริเวณใกล้เคียงกับหน่วยสกัดพะบุ่ง ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ที่ไปด้วยกันสามารถค้นหาและนำร่างขึ้นมาได้ แต่ปรากฏว่าเสียชีวิตแล้ว หลังจากได้รับแจ้งตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ประชุมวางแผนร่วมกับกำนัน ต.ไล่โว่ เพื่อหาทางเข้าไปนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากดึกมากแล้ว ประกอบกับน้ำป่าไหลหลาก และไหลเชี่ยวอย่างรุนแรง ทำให้ไม่สามารถนำเรือออกไปยังจุดเกิดเหตุได้ จึงมีความเห็นพร้อมกันว่า จะออกเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุรุ่งเช้าวันนี้ (6 ส.ค.) โดยให้เจ้าหน้าที่ไปพักค้างคืนที่ อบต.ไล่โว่
พร้อมกับวางแผนแบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด ชุดที่ 1 นำโดยนายศรัญภูมิ ป้องสา นายชาติตระการ บุญชู ผู้ช่วยกำนัน ต.ไล่โว่ และชาวบ้านบ้านกองม่องทะ จำนวน 3 คน เดินทางโดยเรือเข้าพื้นที่เพื่อนำร่างผู้ประสบเหตุ และเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออกจากพื้นที่ ชุดที่ 2 นำโดยว่าที่ ร.ต.หญิงชดาพรรณ ปันทา และเจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัย จำนวน 6 นาย เตรียมนำรถมารับร่างผู้ประสบเหตุ บริเวณจุดใกล้เคียง เพื่อนำส่ง รพ.สังขละบุรี และชุดที่ 3 นำโดยว่าที่ ร.ต.วิชิต อุปวัน น.ส.นุชจรี บุญพา นายพรรักษ์ กระสินธุ์ยั่งยืน และนายวีระพงษ์ บุญเลิศผาใจรักษ์ สแตนด์บายรอ ณ ที่ทำการกำนัน ต.หนองลู อ.สังขละบุรี เพื่อประสานและนัดหมายในการรับเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออกจากพื้นที่
จนกระทั่งเวลา 11.22 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงสามารถนำร่างของผู้เสียชีวิตออกมาได้ และขณะนี้อยู่ที่โรงพยาบาลสังขละบุรี สำหรับผู้เสียชีวิตคือ นายภูวดล ป้องสา อายุ 27 ปี ตำแหน่งเจ้าหน้าที่สายตรวจ (ค่าตอบแทน) อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/1 หมู่ 2 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
สำหรับนายภูวดล ป้องสา ผู้เสียชีวิต ได้ออกลาดตระเวนกับเพื่อนร่วมงานอีก 5 นายคือ 1.นายทวัชชัย เงินแก้ว 2.นายเอกชัย แสนใจดี 3.นายอัจฉริยะ บุญสมยา 4.นายพรชัย ไทรสังขกุลพร 5.นายวิจิตร ณ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ทั้งหมดนอกจะเดินลาดตระเวนแล้ว ยังมีหน้าที่ติดกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าด้วย โดยเจ้าหน้าที่ทั้ง 6 นาย ออกลาดตระเวนระหว่างวันที่ 1-6 ส.ค.63
นายเทวินทร์ มีทรัพย์ เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนหนุ่มที่ตั้งใจทำงาน เมื่อได้รับการมอบหมายงานจะทุ่มเทให้แก่งานอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังเป็นหัวหน้าชุดลาดตระเวนในเส้นทางสันหนอกวัว-กองม่องทะ ตนรู้สึกเสียใจที่ต้องมาสูญเสียบุคลากรที่มีคุณภาพ และต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวที่ต้องมาเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป
โดยนายภูวพล มีภรรยาแล้ว และมีลูกด้วยกัน 2 คน คนสุดท้องเพิ่งอายุได้ประมาณ 2 เดือน ภายหลังทราบข่าวตนเองได้รายงานผู้บังคับบัญชา โดยท่านอธิบดีกรมอุทยานฯ ได้สั่งการให้ตนดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิต และเรื่องการจัดงานศพอย่างสมเกียรติ พร้อมให้ความช่วยเหลือในเรื่องเงินเยียวยาที่จะได้รับอย่างเต็มที่ตามระเบียบของทางราชการอย่าง
ด้าน นายอัจฉริยะ บุญยมยา เพื่อนในทีมผู้เสียชีวิต เล่าเหตุการณที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า ชุดลาดตระเวนที่มีนายภูวพล ป้องสา เป็นหัวหน้าชุด เริ่มออกลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบพร้อมเก็บกล้องที่ตั้งเอาไว้สำหรับดักถ่ายสัตว์ป่า ในเส้นทางสันหนอกวัว-บ้านกองม่องทะ ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ
โดยออกปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเช้าของวันที่ 1 ส.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ฝนกำลังเริ่มตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงเมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับอุทยานแห่งชาติเขาแหลม โดยชุดลาดตระเวนที่มาด้วยกัน 6 นาย มามาถึงริมแม่น้ำรันตี ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับจุดสะกัดพ่าบุ่ง ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ในช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ขณะนั้นท้องฟ้าเริ่มจะมืดแล้ว
โดยทุกคนตั้งใจจะข้ามไปนอนพักค้างคืนที่หน่วยพ่าบุ่ง ซึ่งอยู่คนละฝั่งแม่น้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่เคยทำกันเป็นประจำ และขณะนั้นมวลน้ำในแม่น้ำรันตี เริ่มมีระดับน้ำสูงขึ้นและไหลเชี่ยว โดยนายภูวดล ที่เป็นหัวหน้าชุดลาดตระเวน ได้อาสาเป็นคนว่ายน้ำข้ามไปยังฝั่งตรงข้าม ด้วยการใช้เชือกผูกที่เอว หวังว่าเมื่อไปถึงฝั่งจะได้นำเชือกไปผูกกับต้นไม้ เพื่อให้ทุกคนอาศัยเชือกข้ามไป ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยทำอยู่เป็นประจำเช่นกัน
แต่ครั้งนี้ด้วยกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ขณะที่นายภูดล กำลังว่ายน้ำไปถึงกลางแม่น้ำ ปรากฏเกิดกระแสน้ำไหลวนอย่างรุนแรง ทำให้กระแสน้ำดูดเอาร่างของนายภูวดล จมลงไปใต้ท้องน้ำอย่างรวดเร็ว เมื่อทุกคนเห็นต่างก็รู้สึกตกใจ พร้อมกับตะโกนเรียกชื่อและได้พยายามดึงเชือกที่ผูกเอาไว้กับเอวของนายภูวดลขึ้นมาบนฝั่ง แต่กว่าจะดึงขึ้นมาได้ต้องใช้เวลานานพอสมควร เมื่อนำขึ้นมาได้ทุกคนต่างช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการทำ CPR นานกว่า 1 ชั่วโมง ก็ยังไม่ฟื้น และเสียชีวิตในที่สุด
จากนั้นจึงได้ขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่หน่วยสกัดพ่าบุ่ง ให้วิทยุแจ้งผู้บังคับบัญชาทราบ ตนเองรู้สึกเสียใจที่ต้องมาสูญเสียผู้ร่วมงานที่เป็นที่รักในทีม และเป็นผู้ที่ทำงานด้วยความทุ่มเทและเสียสละมาตลอด หลังเกิดเหตุการณ์ทุกคนต่างขวัญเสีย แต่ก็ต้องนอนเฝ้าร่างของเพื่อนตลอดทั้งคืน จนมีการเข้าไปช่วยเหลือได้ในวันนี้