xs
xsm
sm
md
lg

DSI บุกค้น 8 จุดทั้งกรุงเทพฯ-อุตรดิตถ์-เชียงใหม่ แหล่งทำผลิตภัณฑ์ชีวภาพผสมพาราควอตหลอกขายประชาชน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - DSI บุกเข้าตรวจค้นผู้ประกอบการที่ผลิตและจำหน่ายวัตถุอันตราย โดยนำสารพาราควอต หรือสารไกลโฟเสตผสมในผลิตภัณฑ์ชีวภาพอินทรีย์หลอกขายให้ประชาชน 8 จุดใน กทม., อุตรดิตถ์ และเชียงใหม่ มูลค่าความเสียหายมากกว่า 20 ล้านบาท



วันนี้ (23 ก.ค. 63) พันตำรวจโท ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และ พันตำรวจโท กฤช อาจสามารถ ผู้อำนวยการ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษพื้นที่ 5 (เชียงใหม่) พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวที่ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่

หลังบุกเข้าตรวจค้นผู้ประกอบการที่ผลิตและจำหน่ายวัตถุอันตราย โดยนำสารพาราควอตหรือสารไกลโพเสตผสมในผลิตภัณฑ์ชีวภาพอินทรีย์หลอกขายให้ประชาชน มูลค่าความเสียหายมากกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นผู้ประกอบการทั้งหมด 8 จุดในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ ที่กรุงเทพฯ 1 จุด ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งบนถนนแจ้งวัฒนะ แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน, จังหวัดอุตรดิตถ์ 3 จุด ในตำบลวังกะพี้ ตำบลวังป่าเช่า เขตอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ และที่จังหวัดเชียงใหม่บุกเข้าไปตรวจค้น 4 จุด คือ อำเภอสันทราย อำเภอเมือง และอำเภอแม่ริม


ซึ่งสามารถตรวจยึดผลิตภัณฑ์ต่างๆ และเอกสารที่เกี่ยวข้องได้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งได้อายัดอุปกรณ์การผลิตไว้เพื่อทำการตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการป้องกันและปราบปรามตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนกรณีการซื้อขายผลิตภัณฑ์สารชีวภาพอินทรีย์สำหรับกำจัดวัชพืชผ่านทางสื่อโซเชียล โดยได้มีการบูรณาการร่วมกับกรมวิชาการเกษตร รวมทั้งได้ทำการล่อซื้อผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการตามที่ได้ลงขายในสื่อโซเชียล


เมื่อส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ไปตรวจกับกรมวิชาการเกษตร พบว่า ผลิตภัณฑ์สารชีวภัณฑ์กำจัดวัชพืชดังกล่าว มีส่วนผสมของสารเคมีพาราควอต ซึ่งปัจจุบันสารดังกล่าวเป็นสารที่ห้ามมิให้มีการผลิต การนำเข้าการส่งออก หรือมีไว้ในครอบครอง ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม

ประกอบกับการตรวจสอบข้อมูลการขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร ปรากฏว่า ไม่พบข้อมูลผลิตภัณฑ์ขึ้นทะเบียนไว้ ซึ่งลักษณะการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิดฐาน ผลิต หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 43 ประกอบ มาตรา 47
















กำลังโหลดความคิดเห็น