ลพบุรี - เกิดเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชนกลางชุมชนบ้านหนองแขม ต.ท่าแค อ.เมืองลพบุรี วอด 2 หลัง เจ้าของบ้านกระโดดหนีตายจากชั้น 2 รอดหวุดหวิด
วันนี้ (22 ก.ค.) ร.ต.อ.อณัฐพงษ์ ลีเวียง รอง สว.สส.สภ.เมืองลพบุรี พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งลพบุรี ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนภายในชุมชนบ้านหนองแขม หมู่ที่ 1 ต.ท่าแค อ.เมืองลพบุรี และได้ประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลท่าแค และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 10 คัน เดินทางเข้ามาระดมฉีดน้ำดับเพลิงในจุดเกิดเหตุเพื่อไม่ให้ลุกลามเนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นชุมชนขนาดใหญ่ และส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้
ในที่เกิดเหตุพบว่าเพลิงได้โหมลุกไหม้บริเวณชั้น 2 ของบ้านเลขที่ 71 ซึ่งเป็นบ้านต้นเพลิงจนวอดไปหมดทั้งหลังในเวลารวดเร็ว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะไปถึงเนื่องจากเป็นบ้านไม้ทั้งหลังซึ่งเป็นเชื้อไฟอย่างดี และยังพบว่าไฟได้ลุกลามเข้าไปไหม้ข้างฝาบ้านที่อยู่ติดกันอีกหลัง เป็นบ้านไม้ แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ฉีดน้ำสกัดเพลิงไว้ได้ แต่เปลวเพลิงก็ได้ทำให้ข้างฝาบ้านถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายไป 1 ด้าน โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก็สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ จากการตรวจสอบพบว่ามีบ้านเรือนประชาชนถูกไฟไหม้เสียหายไป 2 หลัง
จากการสอบถามนายเล็ก ศรีหลั่งไพโรจน์ อายุ 74 ปี เจ้าของบ้าน ที่ถูกไฟลุกลามไปไหม้ข้างฝาบ้านกล่าวว่า บ้านต้นเพลิงที่ไฟไหม้เป็นบ้านของตน โดยยกให้หลานชายและหลานสาวได้อยู่อาศัย ในช่วงเกิดเหตุได้มีหลานสาวนอนอยู่บนบ้านเพียงคนเดียว และหลานสาวเป็นคนชอบกินเหล้าเป็นประจำ ส่วนหลานชายขณะเกิดเหตุไม่อยู่บ้าน สำหรับหลานชายของตนเป็นคนกินเหล้าและเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ตนเองเคยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับตัวไปแล้วแต่ก็ไม่เข็ดยังคงยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ส่วนสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้ตนไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด ซึ่งจะติดตามตัวผู้ที่บ้านหลังที่เป็นต้นเพลิงมาทำการสอบสวนต่อไป
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน และได้นำเชือกมาปิดกั้นจุดเกิดเหตุเอาไว้พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหลักฐานในจุดเกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
วันนี้ (22 ก.ค.) ร.ต.อ.อณัฐพงษ์ ลีเวียง รอง สว.สส.สภ.เมืองลพบุรี พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งลพบุรี ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนภายในชุมชนบ้านหนองแขม หมู่ที่ 1 ต.ท่าแค อ.เมืองลพบุรี และได้ประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลท่าแค และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 10 คัน เดินทางเข้ามาระดมฉีดน้ำดับเพลิงในจุดเกิดเหตุเพื่อไม่ให้ลุกลามเนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นชุมชนขนาดใหญ่ และส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้
ในที่เกิดเหตุพบว่าเพลิงได้โหมลุกไหม้บริเวณชั้น 2 ของบ้านเลขที่ 71 ซึ่งเป็นบ้านต้นเพลิงจนวอดไปหมดทั้งหลังในเวลารวดเร็ว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะไปถึงเนื่องจากเป็นบ้านไม้ทั้งหลังซึ่งเป็นเชื้อไฟอย่างดี และยังพบว่าไฟได้ลุกลามเข้าไปไหม้ข้างฝาบ้านที่อยู่ติดกันอีกหลัง เป็นบ้านไม้ แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ฉีดน้ำสกัดเพลิงไว้ได้ แต่เปลวเพลิงก็ได้ทำให้ข้างฝาบ้านถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายไป 1 ด้าน โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก็สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ จากการตรวจสอบพบว่ามีบ้านเรือนประชาชนถูกไฟไหม้เสียหายไป 2 หลัง
จากการสอบถามนายเล็ก ศรีหลั่งไพโรจน์ อายุ 74 ปี เจ้าของบ้าน ที่ถูกไฟลุกลามไปไหม้ข้างฝาบ้านกล่าวว่า บ้านต้นเพลิงที่ไฟไหม้เป็นบ้านของตน โดยยกให้หลานชายและหลานสาวได้อยู่อาศัย ในช่วงเกิดเหตุได้มีหลานสาวนอนอยู่บนบ้านเพียงคนเดียว และหลานสาวเป็นคนชอบกินเหล้าเป็นประจำ ส่วนหลานชายขณะเกิดเหตุไม่อยู่บ้าน สำหรับหลานชายของตนเป็นคนกินเหล้าและเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ตนเองเคยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับตัวไปแล้วแต่ก็ไม่เข็ดยังคงยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ส่วนสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้ตนไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด ซึ่งจะติดตามตัวผู้ที่บ้านหลังที่เป็นต้นเพลิงมาทำการสอบสวนต่อไป
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน และได้นำเชือกมาปิดกั้นจุดเกิดเหตุเอาไว้พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหลักฐานในจุดเกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป