ประจวบคีรีขันธ์ - เมียรับร่วมกับผัวเก่า จัดฉากฆ่าสามี ล่าสุด ทั้งคู่เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมรับสารภาพ ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ ญาติยังคาใจว่าไม่น่าจะก่อเหตุเพียง 2 คน อยากให้ตำรวจเอาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้หมด
กรณีหนุ่มขับรถยนต์กระบะตกข้างทางฝั่งขาล่องใต้ เสียชีวิตที่ถนนบายพาสชะอำ เพชรบุรี เมื่อ 05.45 น.ของวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ญาติไม่เชื่อว่าเกิดอุบัติเหตุ เพราะสภาพรถยนต์ไม่ได้ชนกับต้นไม้ แต่มีบาดแผลที่ใบหน้าหลายจุดเลือดท่วมใบหน้า ขณะที่มีรอยเลือดข้างประตูคนขับด้านล่างเป็นรอยเลือดเป็นทาง เหมือนลากศพขึ้นไปจัดฉากบนรถ
ต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. ของวันที่ 14 ก.ค.นางสุมาริน ยอดทอง ภรรยาผู้เสียชีวิต ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.ชะอำ สารภาพว่าเหตุที่สามีตนเสียชีวิต ตนเองเป็นคนลงมือฆ่า เพราะสามีใช้มีดจะเข้ามาแทงตน จนทำให้อดีตสามีวิ่งเข้ามาช่วยเหลือและผลักสามีล้มลง และตนเองเป็นคนลงมือตีเข้าที่ใบหน้าสามีจนเสียชีวิต โดยพนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ ได้ส่งตัวผู้ต้องหา และสำนวนการสอบสวนให้ สภ.บ้านหนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นท้องที่ที่เกิดเหตุดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปนั้น
ล่าสุด วันนี้ (15 ก.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรบ้านหนองพลับ ครอบครัวของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาแจ้งความเอาผิดนางสุมาริน และติดตามความคืบหน้า หลังทราบว่ามีการนำตัว นางสุมาริน ผู้ต้องหาและอดีตสามีเก่า มาสอบปากคำจนเปิดปากยอมรับสารภาพทั้งคู่ หลังจากนั้นพาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ห้องเช่าที่ทั้งสองเช่าอาศัยอยู่ด้วยกัน ในตำบลหนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พ.ต.อ.วรเดช สวนคล้าย ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรชะอำ กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า ในวันที่เกิดเหตุ นางสุมาริน ยอดทอง ได้ทะเลาะมีปากเสียงกับ นายพิธยุทธ โพธิ์ภักดี อายุ 42 ปี สามีอย่างรุนแรง และมีการเรียกสามีเก่าของนางสุมาริน มาเจรจาแต่ไม่ได้ข้อยุติ จนเกิดการลงไม้ลงมือ จนทำให้นายพิธยุทธ เสียชีวิต จากนั้นจึงได้นำศพใส่รถยนต์กระบะออกไปจัดฉากว่าเป็นอุบัติเหตุ เบื้องต้นแจ้งข้อหา สุมาริน ในข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ
นายเสวียน โพธ์ภักดี อายุ 64 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ลูกชายเป็นคนรักลูกรักเมีย เคยโทร.มาปรับทุกข์ให้ฟังเรื่องจับได้ว่าภรรยาปันใจให้ชายอื่น ตนเองสงสารลูก บอกไปว่าถ้าอยู่ไม่ได้ให้กลับมาอยู่บ้านที่สุพรรณบุรี ทันทีที่ทราบข่าวว่าลูกชายเกิดอุบัติเหตุก็รู้สึกถึงความผิดปกติทันที ประกอบกับน้องสาวและญาติไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ ตอนนี้รู้สึกเสียใจมากเมื่อทราบว่าถูกฆ่า โดยนำศพลูกชายกลับไปตั้งสวดพระอภิธรรมที่วัดทับกระดานสุพรรณบุรี ตั้งแต่วานนี้แล้ว
ด้าน น.ส.วนาลี สิงห์อุดม อายุ 33 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ครั้งแรกที่ทราบข่าวพี่ชายเกิดอุบัติเหตุ ก็ไม่เอะใจอะไร เนื่องจากพี่ชายไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใคร แต่เมื่อมาเห็นสภาพศพและเห็นรูป ก็เกิดข้อสงสัยว่าจะไม่ใช่อุบัติเหตุ เพราะสภาพใบหน้าถูกทุบจนจำแทบไม่ได้ บริเวณแขนมีรอยเล็บ มีรอยข่วน มีร่องรอยถูกล็อก ซึ่งขัดกับสภาพรถ ซึ่งปกติพี่ชายเป็นคนรักรถ รักษาความสะอาด ดูแลรถเป็นอย่างดี วันนี้แม้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จะออกมามอบตัวต่อตำรวจแล้วแต่ทางญาติก็ยังคาใจว่าไม่น่าจะก่อเหตุเพียง 2 คนเท่านั้น อยากให้ตำรวจเอาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้หมด
ด้าน พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ล่าสุดได้ตั้งข้อกล่าวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย และซ่อนเร้นอำพรางศพ ทั้งนี้ ได้ยังได้เก็บ DNA ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปตรวจสอบกับ DNA ในรถยนต์ที่ปรากฏบนรถว่า ตรงกันหรือไม่ หรือมีบุคคลใดอยู่ในรถคันดังกล่าวบ้างหากพบหลักฐานเชื่อมโยงถึงใครทางตำรวจก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป