กาฬสินธุ์ - สนั่นโซเชียลเมืองน้ำดำ หลังผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ตำรวจชักอาวุธปืนเล็งใส่ 4 วัยรุ่นขับรถกระบะจอดเติมน้ำมัน ด้านตำรวจ สภ.ห้วยเม็กแจงปฏิบัติหน้าที่ตรวจค้นตามยุทธวิธี พบปืนอัดลม 1 กระบอก และ 1 ใน 4 วัยรุ่นเจอข้อหาไม่มีใบอนุญาตฯ
วันนี้ (15 ก.ค.) โลกโซเชียลเกิดเรื่องทอล์กออฟเดอะทาวน์ และแชร์สนั่น หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “เกรียงไกร ไทยอ่อน” และผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกหลายรายได้โพสต์ภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งชักปืนสั้นประจำกายออกมาในท่าเล็งไปข้างหน้า พร้อมข้อความว่า “มันเกินไปไหมครับ ยาเสพติดก็ไม่มี อาวุธก็ไม่มี ถึงกับใช้ปืนเลยเหรอ แค่ไม่มีใบขับขี่” โดยระบุพิกัดสถานที่ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในเขต อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ หลังจากภาพและข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีผู้เล่นเฟซบุ๊กเข้ามากดไลก์ แสดงความคิดเห็น และแชร์ออกไปในโลกออนไลน์ ซึ่งมีทั้งระบุว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ สร้างความตื่นกลัวให้แก่ผู้พบเห็นเหตุการณ์
จากการพูดคุยกับผู้จัดการและพนักงานสถานีบริการน้ำมันดังกล่าว ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่ปรากฏเป็นภาพในโลกโซเชียลเกิดขึ้นจริง โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 เวลาประมาณ 13.30 น. ทั้งนี้ผู้จัดการสถานีบริการน้ำมันไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพและสัมภาษณ์ อ้างเหตุผลเป็นสิทธิส่วนบุคคล และเป็นสถานที่ส่วนบุคคล โดยให้ข้อมูลว่าเข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่การจับกุมคนร้ายควรเลือกสถานที่ที่เป็นสถานที่ของทางราชการ หรือที่สาธารณะ ไม่ใช่ในบริเวณปั๊มน้ำมัน เพราะจะทำให้ลูกค้าตื่นตระหนก หวาดระแวงอาจจะเจอลูกหลง หรือทรัพย์สินเสียหาย หากมีเหตุการณ์รุนแรง
ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.สมภาร แสนคำ รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ระบุว่า เหตุดังกล่าวตามที่ปรากฏในสื่อโซเชียล เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยเม็กได้ร่วมกันตรวจค้นรถยนต์ผู้ต้องสงสัยจริง สืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากประชาชนในเขต อ.หนองกุงศรี ว่านายอภิเชษฐ์ ภูพาดนา หรือโอลาย อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 161 หมู่ 6 ต.ลำหนองแสน อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและพกพาอาวุธปืนไว้ในรถยนต์เป็นประจำ โดยใช้รถยนต์กระบะ 4 ประตู สีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน ญม 5300 กทม. ซึ่งมักจะเดินทางไปมาระหว่าง อ.หนองกุงศรี-อ.ห้วยเม็ก-อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ และ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
กระทั่งวันที่ 14 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยเม็กได้รับแจ้งว่ารถยนต์คันดังกล่าวเข้ามาในพื้นที่ อ.ห้วยเม็ก ซึ่งเจ้าหน้าที่สายตรวจได้พบเห็นรถคันดังกล่าวกำลังจะขับเข้าไปเติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันดังกล่าว จึงขับรถสายตรวจเข้าไปจอดขวางไว้ และลงจากรถแสดงตัวขอตรวจค้น แต่พอคนขับรถคันดังกล่าวเห็นรถเจ้าหน้าที่ตำรวจจอดขวางก็ขับถอยหลังและทำท่าจะขับหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงชักปืนออกจากซองพกและชี้ลงพื้น ไม่ได้ชี้ไปที่ตัวบุคคลใด ซึ่งเป็นเจตนาป้องปรามไม่ให้เกิดการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามยุทธวิธีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พ.ต.ท.สมภารกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ดึงปืนพกออกมาจากซอง คนขับรถและผู้โดยสาร 4 คนจึงลงจากรถ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะวิทยุเรียกกำลังสนับสนุนอีก 10 นายร่วมตรวจค้น ซึ่งก่อนตรวจได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ผู้ถูกตรวจค้นพอใจจึงตรวจค้น ขณะที่วัยรุ่นทั้ง 4 คนได้ตะโกนร้องท้าเจ้าหน้าที่ว่าขอให้สบายใจได้ ไม่มีสิ่งผิดกฎหมายในรถ ซึ่งผลการตรวจค้นพบปืนอัดลมหรือสิ่งเทียมอาวุธปืน (ปืนพลาสติก) แบบออโตเมติก สีสเตนเลส อยู่ใต้เบาะนั่งคนขับ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ทั้งนี้ รถกระบะที่ถูกตรวจค้น มีคนขับและผู้โดยสารรวม 4 คน คือ นายภานุพงษ์ เป่งหนองแซง อายุ 18 ปี เป็นคนขับ อยู่บ้านเลขที่ 296 หมู่ 3 ต.ลำหนองแสน อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ถูกเจ้าหน้าที่เปรียบเทียบปรับ 300 บาท เนื่องจากไม่มีใบอนุญาตขับขี่, นายอภิเชษฐ์ หรือโอลาย ภูพากนา อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161 หมู่ 6 ต.ลำหนองแสน อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์, นายเจษรินทร์ อาจดวงดี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 146 หมู่ 6 ต.กุดโดน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ และนายแดง (นามสมมุต) อายุ 14 ปี
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัววัยรุ่นทั้ง 4 คนมาพบพนักงานสอบสวนและตรวจสอบประวัติ เบื้องต้นพบประวัตินายอภิเชษฐ์ หรือโอลาย เคยถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยเม็ก 2 คดี คือความผิดฐานครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย และ พ.ร.บ.อาวุธปืน เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2556, คดีอาญา ฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2556 และถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองกุงศรี ตามคดีอาญาลงวันที่ 7 มิถุนายน 2556 ฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด
สำหรับนายนรินทร์ อาจดวงดี ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจตรวจค้นบ้านพักมาแล้ว 1 ครั้ง เนื่องจากมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องยาเสพติด ส่วนปืนอัดลม ไม่มีใครอ้างตัวเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงอายัดไว้ป้องกันการนำไปพกพา และอาจจะทำให้ชาวบ้านที่พบเห็นตกใจตื่นกลัวได้