xs
xsm
sm
md
lg

พบสาวกำแพงเพชรป่วยร่างกายแข็งทั้งตัว นอนขยับไม่ได้กว่า 30 ปีเหมือนตายทั้งเป็น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กำแพงเพชร - พบสาวเมืองกล้วยไข่ป่วยทรมานยิ่งกว่าตายทั้งเป็น ร่างกายแข็งทั้งตัวหมอยังวินิจฉัย หาทางรักษาไม่ได้ ต้องนอนอย่างเดียวมานานกว่า 30 ปี ล่าสุดขากรรไกรค้าง อ้าปากกินอาหารไม่ได้แล้ว


นายเศวก มั่งสกุล กู้ชีพโรงพยาบาลพรานกระต่าย ได้นำผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 11 ต.วังควง อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวฝาบ้านก่อด้วยอิฐบล็อกหลังคามุงด้วยสังกะสี เพื่อดูอาการของนางสาวกำไร สุรินทร์ อายุ 47 ปี ผู้ป่วยที่กลายเป็นเหมือนมนุษย์หิน ซึ่งนอนอยู่บนที่นอนกลางบ้าน สภาพแขน ขา ลำตัว ทุกส่วนของร่างกายแข็งจนขยับไม่ได้ มีเพียงปากที่อ้าได้เล็กน้อยเพราะขากรรไกรเริ่มแข็งแล้วเช่นกัน แต่ยังสามารถพูดคุยสื่อสารได้

เมื่อไปถึงก็พบสภาพนางสาวกำไรต้องนอนอยู่ในสภาพขาข้างขวางอ ขาข้างซ้ายเหยียดตรง ปลายเท้าบวมเป่งเพราะเกิดจากการห้อยขานานเกินไป มืองอมาอยู่ที่หน้าอกทั้งสองข้าง นิ้วมือหงิกงอ เวลาที่นำหมอนซึ่งหนุนศีรษะทั้ง 2 ใบออกคอจะค้างอยู่ในลักษณะที่นอนหนุนหมอน เวลาที่กดศีรษะลงขาก็จะกระดกขึ้น ซึ่งเกิดจากความแข็งทุกสัดส่วนของร่างกาย ต้องอยู่ในลักษณะเช่นนี้ตลอดเวลามานานกว่า 30 ปีแล้ว


นางเสวย แก้วศรีทัศน์ อายุ 69 ปี เจ้าของบ้าน ผู้เป็นแม่ที่คอยดูแล น.ส.กำไรเพียงลำพัง เล่าให้ฟังว่า ตอน น.ส.กำไร สุรินทร์ เกิดมาใหม่ๆ ก็เป็นเด็กมีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดีเป็นปกติทุกอย่าง พออายุได้ 7 ขวบคอก็เริ่มแข็ง จากนั้นพออายุได้ 14 ปี แขน-ขาก็เริ่มงอไม่ได้โดยไม่มีสาเหตุและต้องอยู่ในสภาพนั้นตลอดมาตั้งแต่อายุ 14 ปี

ที่ผ่านมาได้พาลูกเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพรานกระต่าย และแพทย์ได้ส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร จากนั้นก็ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี กรุงเทพฯ จากการตรวจของแพทย์ไม่พบความผิดปกติของกล้ามเนื้อ กระดูก เส้นเอ็น และอวัยวะส่วนต่างๆ


นางเสวยบอกอีกว่า แพทย์ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าอาการของลูกเกิดจากสาเหตุอะไร พร้อมกับบอกว่าไม่สามารถรักษาได้ ทั้งประเทศพบแค่ 2 ราย อีกรายเป็นชายแต่เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนรายนี้ก็เลี่ยงไม่พ้นที่อาจต้องตายทั้งเป็นเนื่องจากต่อไปขากรรไกรจะแข็งจนอ้าปากกินอะไรไม่ได้ ตนจึงนำตัวลูกสาวกลับมาอยู่ที่บ้านตามลำพังสองคนแม่ลูก

ทั้งนี้ ตนก็อายุมากแล้ว มีโรคประจำตัวหลายโรค เช่น ความดัน เบาหวาน และหอบหืด อีกด้วย ทุกวันนี้อาศัยเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของตนเดือนละ 600 บาท เงินเบี้ยยังชีพผู้พิการของลูกสาวอีก 800 บาท และมีลูกส่งมาให้อีกเดือนละ 1,000 บาท พอได้ซื้อข้าวสาร น้ำปลา และเป็นค่ายารักษาโรค


“เวลาลูกสาวป่วยหน่วยกู้ชีพต้องมารับไปส่งโรงพยาบาล จะนำตัวออกจากประตูบ้านต้องยกตะแคงตัวออกไปเนื่องจากขาจะติดประตูบ้านออกไม่ได้ จึงวอนผู้ใจบุญมีเมตตาสงสารช่วยเหลือลูกสาวที่เป็นเหมือนมนุษย์หินได้ที่บัญชีธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาพรานกระต่าย ชื่อบัญชีนางเสวย แก้วศรีทัศน์ เลขที่บัญชี 016362495999”


กำลังโหลดความคิดเห็น