xs
xsm
sm
md
lg

จนท.เร่งปรับทางเดินส่องบ่อเกลือโบราณ รับคนฝ่าถนนดอยลอยฟ้าชม “พระตำหนักภูฟ้า”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



น่าน - สุดประทับใจ..ฝ่าถนนดอยลอยฟ้า-โค้งเลข 3 สันติสุข-บ่อเกลือ ชม “พระตำหนักภูฟ้า” ศูนย์รวมจิตใจ-องค์ความรู้ด้านการพัฒนา “คนอยู่ร่วมกับป่า” จนท.เร่งชักรอกขนอิฐ-ทราย ปรับทางเดินส่องบ่อเกลือโบราณรับคนเที่ยวหลังโควิดคลาย


หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และจังหวัดน่านเริ่มผ่อนปรนในหลายมาตรการ ทำให้มีนักท่องเที่ยวทยอยเดินทางเข้าท่องเที่ยวในจังหวัดน่านมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอำเภอบ่อเกลือ ซึ่งเป็นที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวต้องมาเช็กอิน ทั้งเส้นทางที่จะไปอำเภอบ่อเกลือ เส้นทาง อ.สันติสุข-อ.บ่อเกลือ ที่จะมีถนนดอยลอยฟ้า-โค้งเลข 3 ที่สวยงาม

รวมถึงจุดท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสธรรมชาติมากมาย ที่สำคัญคือ ศูนย์ภูฟ้าพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.น่าน ซึ่งเป็นศูนย์ศึกษาวิจัยและถ่ายทอดความรู้ พัฒนาและจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่ยั่งยืนสู่จุดมุ่งหมาย “คนอยู่ร่วมกับป่า” โดยมีการส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสมต่อศักยภาพของราษฎร และพื้นที่สูง


นอกจากความสวยงามของป่าต้นน้ำและองค์ความรู้ต่างๆ แล้ว ยังมีพระตำหนักภูฟ้า ที่ประทับของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมได้ด้วย

นายศักดรินทร์ นุแปงถา เจ้าหน้าที่ศูนย์ภูฟ้าพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ จ.น่าน กล่าวว่า มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากยังไม่ทราบว่าที่จังหวัดน่านมีพระตำหนักของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อยู่สองแห่ง คือ พระตำหนักธงน้อย ริมแม่น้ำน่าน ต.ดู่ใต้ อ.เมืองน่าน และพระตำหนักภูฟ้า ต.ภูฟ้า อ.บ่อเกลือ


พระตำหนักหลังนี้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อครั้งเสด็จฯ มาทรงเยี่มมราษฎร ณ บ่อเกลือสินเธาว์ มีขนาดไม่ใหญ่ เป็นห้องกระจกเปิดโล่ง มีห้องทรงงานอย่างเรียบง่าย ไม่อนุญาตให้เข้าชมด้านใน แต่สามารถเดินโดยรอบและมองเห็นห้องทรงงานได้




นอกจากนี้ โดยรอบพระตำหนักได้จัดเป็นเส้นทางเดินเพื่อศึกษาสภาพป่าและการฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ซึ่งกำลังปรับพื้นที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติ และเส้นทางไปชมบ่อเกลือโบราณ ที่ชื่อว่า “สวก” ซึ่งอยู่ภายในบริเวณศูนย์ภูฟ้าพัฒนา ที่เป็นเส้นทางเดินดิน แต่สภาพพื้นที่ลาดชัน และต้องเดินอ้อมหลายร้อยเมตร โดยชักรอกลำเลียงวัสดุก่อสร้าง ทั้งอิฐบล็อก ทราย ซีเมนต์ ตามภูมิปัญญาแบบบ้านๆ ของคนบนพื้นที่สูง ที่ได้ผล ประหยัดเวลาและทุ่นแรงไปได้อย่างมาก








กำลังโหลดความคิดเห็น