เชียงราย – ตำรวจแม่สายประสานส่งกลับบ้านเกิดแล้ว..สาวลาวเหยื่ออุ้มข้ามชาติ หลังโดนลักพาตัวพร้อมสามีพันจ่าฯ-อดีตปลัดฯกับคู่หูเอี่ยวคดีส่งออกยานรกค่า 400-500 ล้าน พร้อมเร่งล่า 2 ตำรวจ-จ่อออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่ม
เช้าวันนี้ (8 ก.ค.) พ.ต.อ.ปวีณ ทองสมบูรณ์ ผกก.สภ.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.สุรพล เพชรพิสิฐพงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.เกาะช้าง พร้อมเจ้าหน้าที่นำตัวนางน้ำทิพย์ ปะวันเนา อายุ 30 ปี ชาวบ้านเกิ๋นเหนือ เมืองทุละคม แขวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เดินทางกลับบ้านเกิด
หลังนางน้ำทิพย์ให้ความร่วมมือและชี้หลักฐานต่างๆ ในคดีกลุ่มคนร้ายได้ลักพาตัวนางน้ำทิพย์และสามีคือ พันจ่าอากาศโท หรือนายสุวัฒน์ พันธุ์แตง อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 129/1 หมู่ 1 ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งปลัดฯหน่วยงานหนึ่งในพื้นที่ชายแดนไทย-ลาว จากถนนหน้าตลาดเมืองไซทานี แขวงเวียงจันทน์ เมื่อ 27 พ.ค.แล้วนำไปขังไว้ที่บ้านพักเขตหมู่บ้านสันนา หมู่ 2 ต.เกาะช้าง ก่อนถูกปล่อยตัวและตำรวจเข้าช่วยเหลือเอาไว้ได้เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้นำนางน้ำทิพย์ นั่งรถจาก อ.แม่สาย ไปยัง อ.เชียงของ ก่อนประสานกับทางเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เพื่อส่งตัวกลับผ่านด่านพรมแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 เพื่อให้เดินทางกลับภูมิลำเนาที่แขวงเวียงจันทน์ต่อไป
นางน้ำทิพย์ กล่าวว่าช่วงที่ถูกลักพาตัวมานั้นคนร้ายได้ถอดเอาแหวนของตนไปด้วย 1 วง และบอกกับตนว่าไม่ต้องเป็นห่วงเพราะจะได้ไปสู่สุขติ เนื่องจากจะพาไปพักผ่อนให้สบาย ทำให้ตนคิดว่าตัวเองไม่น่าจะรอดแน่นอน กระทั่งได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย รวมทั้งได้รับการดูแลเป็นอย่างดีมากตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา เหมือนเป็นพี่น้องกันเลยทีเดียว ส่วนคนที่เคยกระทำกับตนก็ขออโหสิกรรมให้ด้วย
สำหรับนางน้ำทิพย์ได้ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายเรื่อง ทั้งรูปพรรณสันฐานของผู้ที่ลักพาตัวมาจาก สปป.ลาว โดยระบุว่าคนที่ลงมือรุมจับ-บังคับให้ขึ้นรถยนต์ชุดแรกมีประมาณ 7-10 คน จากนั้นคนร้ายพาเดินทางด้วยรถยนต์เป็นเวลา 1 วัน จนถึงวันที่ 28 พ.ค.ได้ให้ลงรถแล้วพาเดินเท้าผ่านป่าเป็นเวลา 9 ชั่วโมง จนมาถึงรีสอร์ตแห่งหนึ่งบริเวณชายแดนไทย-สปป.ลาว ใกล้ภูชี้ฟ้า อ.เทิง จ.เชียงราย
จากนั้นได้มีคนร้ายกลุ่มใหม่มารับอีก 8 คน โดยใช้ผ้าปิดตาแล้วให้นั่งรถยนต์เข้าพื้นที่ชั้นในของไทย แต่นางน้ำทิพย์ก็แอบมองด้านนอกได้หลายครั้ง และเมื่อถึงบ้านพักก็สังเกตุเห็นหลักฐานต่างๆ หลายอย่าง ก่อนที่สามี (พันจ่าอากาศโท หรือนายสุวัฒน์)จะหลบหนีออกไปและนางน้ำทิพย์ถูกปล่อยตัวออกมาในเขต ต.โป่งผา อ.แม่สาย จนชาวบ้านไปพบแล้วนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
ส่วนกรณีของอดีตพันจ่าอากกาศโท หรือนายสุวัฒน์ หลังจากตำรวจช่วยเหลือได้แล้วตรวจสอบประวัติพบว่ามีหมายจับติดตัวข้อหา "สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน" พร้อมพวกคือนายนายวชิระวงศกร โตแสง อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 61 หมู่ 4 ต.พนานิคม อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ที่ถูกอุ้มเช่นเดียวกัน ปัจจุบัน บก.ปส.2 บช.ปส.ได้นำตัวทั้งคู่ไปดำเนินคดีต่อแล้ว
ส่วนคดีลักพาตัวในพื้นที่ สภ.เกาะช้าง ก็ยังคงเดินหน้าต่อไป โดยที่ผ่านมา พ.ต.ท.พีรภัทร อุ่นนันกาศ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เกาะช้าง ในฐานะ พงส.เจ้าของคดีได้สอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งศาลจังหวัดเชียงราย อนุมัติหมายจับตำรวจสังกัด สภ.แม่สาย 2 ราย ซึ่งพบว่าอยู่บริเวณบ้านพักที่นางน้ำทิพย์และพวกถูกลักพาตัวไปขังไว้ด้วย คือ ด.ต.วิทยา คำปัญญา ตามหมายจับที่ 146/2563 ลงวันที่ 3 มิ.ย.2563 และ ด.ต.กันดิศ จุมปู ตามหมายจับที่ 147/2563 ลงวันที่ 3 มิ.ย.2563 ในข้อหา "หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น,เรียกค่าไถ่" ปัจจุบันอยู่ระหว่างติดตามจับกุมและขยายผลไปถึงผู้ที่คาดว่าจะอยู่เบื้องหลังกลุ่มลักพาตัวดังกล่าวอยู่
พ.ต.ท.สุรพล กล่าวว่าคดีนี้เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำได้ค่อนข้างครบถ้วน กระทั่งให้นางน้ำทิพย์กลับประเทศได้ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เรื่องการผ่านแดนในช่วงนี้และทางจังหวัดได้ประสานไปยังเจ้าแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว จนได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ส่วนเรื่องการคลี่คลายคดีนั้น คาดว่าจะสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้ในเร็วๆ นี้อีกต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่าปมการลักพาตัวข้ามชาติดังกล่าว คาดว่าเกี่ยวข้องกับการขนยาเสพติดจำนวนมากจากชายแดนภาคเหนือของประเทศไทย ผ่านพื้นที่ภาคใต้เพื่อส่งไปประเทศที่ 3 แต่ถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับได้เสียก่อนทำให้กลุ่มขบวนการสูญเสียผลประโยชน์ไปไม่น้อยกว่า 400-600 ล้านบาท จึงได้มีการว่าจ้างกลุ่มคนร้ายลักกพาตัวคนที่คิดว่าเกี่ยวข้องเพื่อเรียกเงินดังกล่าวคืน
