ศูนย์ข่าวขอนแก่น - "อานนท์" ออกโรงโต้ "ศรีสุวรรณ" กล่าวหากลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ ทั้งที่ไม่รู้ข้อเท็จจริง ไม่เห็นใจพี่น้องเกษตรกรรากหญ้าที่ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤตโควิด-19 ยันชาวบ้านรวมตัวทำวิสาหกิจชุมชนกันมานาน ลั่นขอใช้สิทธิปกป้องกลุ่มโดยดำเนินการตามกฎหมายต่อนายศรีสุวรรณ
จากกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์เฟซบุ๊กอ้างว่าได้รับการร้องเรียนจากข้าราชการในหลายจังหวัดของภาคเหนือ ว่ามีการแอบอ้างการจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนและการรวบรวมสมาชิกในพื้นที่ โดยระบุถึงนายอานนท์ แสนน่าน กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีและอดีตแกนนำคนเสื้อแดงไปข่มขู่ข้าราชการให้สนับสนุนและผลักดันการตั้งวิสาหกิจชุมชนอย่างเร่งรีบ ทั้งๆ ที่ชาวบ้านยังไม่มีความพร้อม เพียงเพราะต้องการตัวเลขปริมาณวิสาหกิจชุมชนเยอะๆ เพื่อนำมาเสนอนายกรัฐมนตรีหวังขอส่วนแบ่งใช้เงินกู้ 4 แสนล้าน
ล่าสุดบ่ายวันนี้ (5 ก.ค.) นายอานนท์ แสนน่าน ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนเรารักประเทศไทย ได้ออกมาตอบโต้ว่าสิ่งที่นายศรีสุวรรณกล่าวหาตนนั้นไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย ตนในนาม "เครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย" ในฐานะที่ตนเคยเป็นอดีตผู้ก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงและประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ได้ก่อตั้งหมู่บ้านไปทั่วประเทศไทยรวมทั้งหมด 28,850 หมู่บ้าน ส่วนใหญ่ในการต่อสู้ของหมู่บ้านเสื้อแดง จะไม่เหมือนการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช. เพราะเราจะส่งเสริมให้ประชาชนในหมู่บ้านสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา
นอกจากนั้นแล้วยังได้รวมตัวกันของกลุ่มเกษตรกรภายในหมู่บ้านจัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนตาม พ.ร.บ.วิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548 โดยเฉพาะกลุ่มเพาะเห็ด กลุ่มเลี้ยงโค กลุ่มเลี้ยงปลา กลุ่มเลี้ยงเป็ด-ไก่ และกลุ่มสินค้า OTOP ในช่วงสภาวะวิกฤตไวรัส covid-19 ระบาด กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแต่ละกลุ่มก็สามารถช่วยเหลือและประคับประคองตนเองได้ แต่การระบาดของโรคมีระยะเวลานานหลายเดือน กลุ่มเกษตรกรที่เคยช่วยเหลือตัวเองได้ก็ได้รับความเดือดร้อน
ซึ่งประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแต่ละจังหวัดก็ได้มาปรึกษาตนพร้อมขอความช่วยเหลือต่อไปทาง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ทำงานร่วมกับรัฐบาล เพราะตนและสมาชิกหมู่บ้านเสื้อแดงได้ยุบและสลายสีเสื้อไปตั้งแต่หลังการปฏิวัติ ปี พ.ศ. 2557 เปลี่ยนมาเป็น "หมู่บ้านเห็ด" จึงทำให้การเชื่อมโยงระหว่างตนกับทางรัฐบาลเกิดขึ้นได้ง่ายผ่านทางนายสุภรณ์
โดยคัดสรรเอากลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีความพร้อมและดำเนินกิจการทางการเกษตรอย่างต่อเนื่อง แล้วต่อใบอนุญาตกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พ.ร.บ.วิสาหกิจชุมชน 2548 จำนวน 3,058 กลุ่มวิสาหกิจชุมชน จาก 20,850 หมู่บ้าน และเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ดำเนินการอยู่แล้ว "ไม่ได้ขึ้นทะเบียนใหม่" อย่างที่คุณศรีสุวรรณกล่าวอ้างแต่อย่างใด
การที่นายศรีสุวรรณออกมาพูดเช่นนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญ และเห็นใจประชาชนชาวเกษตรกรรากหญ้าที่กำลังได้รับความเดือดร้อนหลังสภาวะวิกฤตไวรัสโควิด-19 ระบาด และการยื่นเอกสารต่อทางนายสุภรณ์ ตนได้ยื่นเสนอตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 เพื่อเสนอพิจารณา และทางรัฐบาลเองก็ได้รับทราบพร้อมกับให้เจ้าหน้าที่กรม และกระทรวงต่างๆ มาชี้แจงระเบียบขั้นตอนของการของบประมาณให้ถูกต้องตามระเบียบของสภาพัฒน์ ยังไม่มีการอนุมัติงบประมาณให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนออกมาใช้แม้แต่บาทเดียว
ตนสงสารเกษตรกรรากหญ้าเป็นอย่างมาก ที่นายศรีสุวรรณออกมาให้ข่าวกล่าวหาเช่นนี้ เพราะวันนี้ทางรัฐบาลโดยการนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายสมานฉันท์ ไม่สร้างความแตกแยก ทุกหมู่เหล่าให้ร่วมมือร่วมใจกันรวมพลัง "รวมไทย สร้างชาติ" เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเดินต่อได้ ที่สำคัญ นายสุภรณ์ก็ได้ย้ำกับตนเสมอว่าทางรัฐบาลอยากช่วยประชาชนและเกษตรกรที่รับความเดือดร้อน อยากให้มีการสร้างอาชีพสร้างรายได้ อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
ตนในฐานะประธานเครือข่ายฯ จึงอยากฝากขอเตือนนายศรีสุวรรณว่าอย่าทำให้ประชาชนต้องเดือดร้อนและออกมาเรียกร้องอีกครั้งเลย เพราะการจุดประเด็นของนายศรีสุวรรณครั้งนี้อาจเป็นชนวนสร้างความขัดแย้งให้กลุ่มเกษตรกรเกลียดชังนายศรีสุวรรณ
“ขอยืนยันว่ายังไม่ได้มีการเสนอโครงการในรายละเอียดตามขั้นตอนระเบียบราชการ และยังไม่เคยได้รับการอนุมัติงบแม้แต่บาทเดียว และทางนายสุภรณ์เองเป็นเพียงผู้รับเรื่องประสานงานไม่มีอำนาจในการพิจารณาอนุมัติงบประมาณให้เกษตรกรใดๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระเบียบราชการอย่างถูกต้องทุกประการ” นายอานนท์กล่าว และว่า
ตนขอท้าให้ตรวจสอบได้เลย เมื่อนายศรีสุวรรณกล่าวหาใส่ร้ายดูหมิ่นดูแคลนเครือข่ายวิสาหกิจของกลุ่มตน ตนในฐานะประธานเครือข่ายฯ ก็จะขอใช้สิทธิปกป้องกลุ่ม โดยดำเนินการตามกฎหมายต่อนายศรีสุวรรณต่อไปเช่นกัน