ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ศูนย์ปราบโจรกรรมรถยนต์ฯ ตำรวจภูธรภาค 4 ส่งมอบรถยนต์ในคดียักยอกและสวมทะเบียนที่ยึดคืนได้มาล่าสุด 13 คันส่งคืนเจ้าของ โดยหนึ่งในนั้นเป็นรถยนต์กระบะของคุณครูเมืองอุบลที่ถูกญาติตัวแสบยืมแล้วนำไปขายไกลถึงสกลนครนานถึง 7 ปี
สายวันนี้ (3 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.ยรรยง เวลโอสถ พล.ต.ต.สุภากร คำสิงห์นอก รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เข้าตรวจสอบรถยนต์เก๋งและรถยนต์กระบะจำนวน 13 คัน หลังจาก พ.ต.อ.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ในฐานะหัวหน้าชุด ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ตำรวจภูธรภาค 4 ได้ระดมกำลังตำรวจออกติดตามรถยนต์ผิดกฎหมายในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน หลังพบว่ามีการนำรถยนต์ผิดกฎหมายทั้งสวมทะเบียนและโจรกรรมมาวิ่งบนท้องถนนจำนวนมาก
ทั้งนี้ หนึ่งในรถยนต์กระบะที่สามารถติดตามตรวจยึดคืนมาได้ในครั้งนี้ คือกรณีรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน เลขทะเบียน บว 6142 อุบลราชธานี ของนางสาวนงคราญ บุญชาติ อายุ 60 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนแห่งหนึ่งที่จังหวัดอุบลราชธานี ที่ได้ให้ญาติยืมไปใช้ตั้งแต่ปี 2557 หลังยืมไปแล้วไม่นำมาคืน แจ้งความรถหายและติดตามเองนานกว่า 7 ปีไม่พบเบาะแส
แต่ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ตำรวจภูธรภาค 4 สืบจนพบรถยนต์กระบะคันดังกล่าวถูกนำมาขายต่อให้ชาวสกลนคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามไปถึง จ.สกลนคร ตรวจยึดรถยนต์มาคืนให้แก่นางสาวนงคราญ
พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ยังคงมีผู้เสียหาย ตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพนำรถสวมทะเบียนมาขายในราคาถูกกว่าท้องตลาด ทำให้ประชาชนที่อยากได้รถยนต์ใช้งานตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อติดต่อซื้อขาย วิธีป้องกันถูกหลอกที่ดีที่สุด คือผู้ที่ต้องการซื้อรถยนต์มือสองควรเลือกซื้อจากเต็นท์รถมือสองที่เชื่อใจได้
ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจซื้อรถยนต์สักคันต้องตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นด้วยการดูเลขตัวรถ เลขเครื่องยนต์ ว่ามีการดัดแปลงขูดลบแก้ไขหรือไม่ แผ่นป้ายทะเบียนรถเป็นแผ่นจริงหรือทำขึ้นมาใหม่ สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถมีรายละเอียดเลขตัวรถหรือเลขเครื่องที่ตรงกับตัวรถหรือไม่ หรือนำรถไปตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียน กับกรมการขนส่งทางบกว่าจดทะเบียนถูกต้องหรือไม่ เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งคนร้ายกลุ่มนี้