ลพบุรี - ชาวบ้านเมืองลิง แห่พบ ตร. ติดตามประธานกองทุนหมู่บ้านโกงเงินไปกว่า 7 ล้านบาท หลังติดตามทวงถาม แต่ได้คำตอบว่า อยากได้คืนให้ไปฟ้องศาลเอาเอง
วันนี้ (2 ก.ค.) ชาวบ้าน ต.ตะลุง อ.เมืองลพบุรี กว่า 40 คน นำโดยนางชัยมณี หลิมมณี อายุ 62 ปี รองนายก อบต.ตะลุง เข้าพบ พ.ต.ท.วิจิตร ศรีตะชัย รอง ผกก.(ป.) สภ.ท่าหิน เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดีความกรณีที่มาแจ้งความไว้ต่อ ร.ต.อ.ณัฐพงษ์ วงค์วัง รอง สว.สส.สภ.ท่าหิน เมื่อปลายปี 61 ที่ชาวบ้านถูก น.ส.ศิริพร สิงคุณา ประธานกองทุนหมู่ ต.ตะลุง โกงเงินชาวบ้าน และมีการสอบสวนปากคำเจ้าทุกข์ไว้แล้ว 35 ราย
แต่ขณะนี้ยังไม่คืบหน้าแต่อย่างใด จึงมีการเรียกคู่กรณีมาเจรจากัน ซึ่งทาง น.ส.ศิริพร ก็ยืนยันว่า อยากได้คืนให้ไปฟ้องศาลเอาเอง เพราะเงินที่หักไว้นั้นชาวบ้านยินยอมให้เอง ตนไม่ได้บังคับ ซึ่งหลังจากแจ้งความ ชาวบ้านที่เดือดร้อนต้องการเงินคืนได้ไปร้องยังศูนย์ดำรงธรรม สำนักงานอัยการ จนได้รับการแนะนำให้มาพบ ผกก.สภ.ท่าหิน ดังกล่าว
หลังจากที่มาพบ ทาง พ.ต.ท.วิจิตร ศรีตะชัย รอง ผกก.(ป.) ก็ได้อธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจ และรับปากจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน โดยจะออกหมายเรียก น.ส.ศิริพร สิงคุณา มาทำการสอบสวน แต่ถ้าไม่มา 2 ครั้งก็จะออกหมายจับต่อไป ซึ่งชาวบ้านต่างก็พอใจจึงแยกย้ายกันเดินทางกลับ
ทั้งนี้ นางชัยมณี กล่าวว่า เมื่อช่วงปี 2554 ได้เกิดน้ำท่วมอย่างหนักทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ชาว ต.ตะลุง ได้รับแจ้งจาก น.ส.ศิริพร ประธานกองทุนหมู่บ้าน ต.ตะลุง ว่า ธนาคารออมสิน เปิดให้กู้เงิน เพื่อซ่อมแซมบ้านเรือน โดยการกู้แบบจับกลุ่ม 3 คน ผลัดกันค้ำประกัน และกู้ได้ไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งชาวบ้านได้มาทำการกู้เงินกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อได้เงินมา ประธานกองทุนหมู่บ้าน จะขอหักเงิน จำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ จากยอดกู้ และหักค่างวดส่งงวดสุดท้ายเก็บไว้อีก 2 งวด ซึ่งเงินที่หักมาทั้งหมดจะได้รับคืนเมื่อส่งธนาคารหมดแล้ว และขอให้ผู้ที่ทำการกู้เงินนำเงินมาส่งที่กองทุนหมู่บ้าน เพื่อที่จะนำไปส่งให้ธนาคารต่อไป
ซึ่งหลังจากที่ชาวบ้านกู้เงินได้มาก็ทำตามกติกา และส่งเงินผ่อนกับทางกองทุนหมู่บ้านมาเป็นเวลา 6 เดือน และอยู่ๆ ชาวบ้านก็ได้รับใบทวงถามหนี้จากธนาคารออมสิน จึงเดินทางทางไปสอบถามยังธนาคารออมสิน เรื่องจึงเกิด เพราะประธานกองทุนหมู่บ้านไม่นำเงินที่ชาวบ้านส่งค่างวดมาเข้าธนาคาร เลย ทางธนาคารจึงให้ชาวบ้านมาส่งเองที่ธนาคารเมื่อชาวบ้านส่งเงินกู้หมดในเวลา 5 ปี ก็ได้ไปทวงถามเพื่อขอรับเงินคืนจาก น.ส.ศิริพร แต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา และได้มาแจ้งความไว้แล้ว แต่ก็ไม่คืบหน้า จึงพากันมาพบเจ้าหน้าที่ ตร.ดังกล่าว และเงินที่หักไว้ก็ถูกถอนออกไปหมดบัญชีแล้ว ซึ่งบัญชีนี้มีเงินกว่า 7 ล้านบาท