บุรีรัมย์ - หลอนซ้ำอีก! พบซากไก่เครื่องสังเวยข้างศาลาริมทางที่ “ผู้กองหนุ่ม” สภ.นางรอง เจอผีหลอก ด้านผู้ใหญ่บ้านเผยมีคนป่วยรักษาไม่หายจึงทำพิธีเลี้ยงผีตามคำทำนายหมอทรง ยันไม่ใช่ศาลาพักศพ ขณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสชี้อาจเป็นวิญญาณผีเร่ร่อน เตือนสติอย่างมงายหวาดกลัวเกินเหตุ
วันนี้ (30 มิ.ย.) จากกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลา พงษ์ประยูร รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้โพสต์เรื่องราวชวนขนหัวลุก โดยมีข้อความว่า “ผีมีจริงหรือเปล่าไม่รู้....แต่ผมเจอเหตุการณ์แปลกๆ ยาวหน่อยจะเล่าให้ฟัง ขณะขี่มอเตอร์ไซค์ไปนางรอง ฝนตกหนักเลยหลบฝนศาลาริมทาง ใกล้มืดแล้วก็ยังไม่หยุด ได้ยินเหมือนมีคนมาทักข้างหลังหันไปดูไม่เห็นมีใคร นั่งอีกสักพักได้ยินเสียงคนคุยกันตรงหน้า แต่ฟังไม่รู้เรื่องว่าคุยอะไร แบตเตอรี่โทรศัพท์ก็เหลือ 10% ฝนก็ยังไม่หยุด นั่งต่ออีกเกือบ 10 นาที คราวนี้ได้ยินเสียงหัวเราะและเสียงคุยกันบนหลังคา แหงนมองก็ไม่มีอะไรอีก ตัดสินใจออกจากศาลาทันที เปียกก็ยอม...ถ้าเป็นคุณจะทำอย่างไร” #ควรทำบุญอุทิศส่วนกุศลไหม ? #ผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีเท่าไร #ถามคนแถวนั้นบอกว่า ศาลานี้เมื่อก่อนเป็นที่พักศพก่อนเอาเข้าหมู่บ้าน"
ศาลาริมทางที่ระบุถึงตั้งอยู่ปากทางเข้า-ออก หมู่บ้านบัวตารุ่ง ต.นางรอง อ.นางรอง ห่างจากถนนใหญ่สายลำปลายมาศ-ชำนิ ประมาณ 20 เมตร ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่บางคนบอกว่าเชื่อ บางคนไม่เชื่อเรื่องผีหรือวิญญาณ เพราะเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคลมากกว่า อย่างไรก็ตามจากการสำรวจรอบบริเวณศาลาดังกล่าวพบซากไก่ตายในลักษณะถูกใช้ไม้เสียบกางปีกและขาทั้งสองข้างออกคล้ายกับตรึงกางเขน มีกระบอกไม้ไผ่แขวนติดไว้ใกล้กับซากไก่ 2 กระบอก มัดติดไว้กับกิ่งไม้ไผ่ยาวประมาณ 2 เมตร พิงไว้กับพุ่มไม้ข้างศาลาริมทางดังกล่าว
จากการสอบถาม นางอำนวย วิจิตรศักดิ์ อายุ 62 ปี ชาวบ้านที่อยู่ติดกับศาลา บอกว่า ซากไก่ที่เห็นคือไก่เป็นที่ถูกนำมาเลาะเนื้อออกเหลือแต่โครง ส่วนกระบอกไม้ไผ่ 2 กระบอกเป็นกระบอกเหล้าขาวและน้ำเปล่า ที่ใช้สำหรับทำพิธีเซ่นสังเวยหรือเลี้ยงผีตะกัง เพราะเมื่อประมาณ 5-6 เดือนที่ผ่านมามีชาวบ้านในหมู่บ้านคนหนึ่งล้มป่วยแบบไม่ทราบสาเหตุ ไปรักษาที่ไหนก็ไม่หาย ญาติจึงพาไปดูหมอทรง หมอทรงบอกว่าโดนผีตะกังทำให้ป่วย ต้องนำไก่เป็น เหล้าขาว และน้ำมาเซ่นไหว้เลี้ยงผีตะกังตนนั้นและระบุว่าจะต้องเป็นสามแยก
จึงได้มาทำพิธีที่ศาลาดังกล่าวเพราะเป็นสามแยกตามที่หมอทรงบอก หลังจากทำพิธีแล้วคนนั้นก็หายเจ็บป่วยจนทุกวันนี้ ถึงแม้ตนจะไม่เคยเห็นผีกับตาแต่ก็เชื่อว่าผีมีจริง ไม่ลบหลู่หรือท้าทาย ส่วนที่ตำรวจได้ยินเสียงปริศนานั้นอาจจะเป็นวิญญาณของผีเร่ร่อนก็เป็นไปได้
ด้าน นายรักชาติ คชชาญ ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า เรื่องผีหรือวิญญาณเป็นสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ และแม้ตัวเองจะไม่เคยเห็นกับตาแต่เชื่อว่าน่าจะมีจริง ส่วนจะเห็นหรือไม่เห็นขึ้นอยู่กับสัมผัสของแต่ละคน ส่วนซากไก่และกระบอกไม้ไผ่นั้นทราบว่ามีชาวบ้านที่เชื่อว่าโดนผีทำให้เจ็บป่วยประหลาดมาทำพิธีเซ่นไหว้เลี้ยงผีตามคำทำนายของหมอทรง ซึ่งเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลเท่านั้น ไม่อยากให้ชาวบ้านตื่นตระหนกหรือหวาดกลัว แต่ยอมรับว่าถนนสายดังกล่าวมีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหลายราย แต่ยืนยันศาลาดังกล่าวไม่ใช่ที่พักศพ แค่มีสภาพเก่าตามกาลเวลาเพราะสร้างมานานกว่า 50 ปีแล้ว
ขณะที่ พระชัยวุฒิ ปัญญาธโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดทุ่งโพธิ์ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ บอกว่า เสียงปริศนาที่ผู้กองคนดังกล่าวได้ยินอาจเป็นวิญญาณของผีเร่ร่อนที่ตายไปแล้วแต่บุญไม่ถึงจึงยังไม่ได้ไปผุดไปเกิดจึงมาเร่ร่อนขอส่วนบุญ ซึ่งในสมัยพุทธกาลก็มีหลักฐานทางพระพุทธศาสนาปรากฏ คือ ญาติของพระเจ้าพิมพิสาร ที่เสียชีวิตไปแล้วตกนรกเพราะทำความชั่ว พ้นจากนรกก็มาเป็นเปรต จากนั้นพระเจ้าพิมพิสารได้ฟังธรรมะจากพระพุทธเจ้าก็เกิดศรัทธาจึงสร้างวัดเวฬุวันขึ้น แต่ทุกครั้งที่พระเจ้าพิมพิสารมาทำบุญที่วัดไม่เคยกรวดน้ำให้กับญาติคนดังกล่าว ญาติคนดังกล่าวที่รอส่วนบุญอยู่จึงไปแสดงตัวให้พระเจ้าพิมพิสารเห็น
อย่างไรก็ตาม ขอให้ใช้วิจารณญาณไตร่ตรองด้วยเหตุด้วยผล หากคิดว่าทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แล้วสบายใจก็ควรทำ แต่หากพูดถึงว่าผีมีจริงหรือไม่พวกเราก็เป็นผีกันทุกคน ก่อนจะเกิดมาก็เป็นผี ตายไปก็เป็นผี ดังนั้นในขณะที่ทุกคนยังมีโอกาสก็อย่าประมาทมัวเมาในการดำเนินชีวิต ควรทำคุณงามความดีสั่งสมไว้ให้นำสิ่งที่เห็นมาเป็นอุทาหรณ์ว่าทำไมตายไปแล้วถึงไม่ได้ไปเกิดเพราะบุญน้อย ก็ไม่อยากให้ชาวบ้านงมงายหรือหวาดกลัวเกินเหตุ เพราะถึงจะเป็นผีหรือวิญญาณก็ทำอะไรเราไม่ได้ เพราะอยู่คนละภพชาติแล้ว